งานนี้ช้างชนช้าง!!“ชัยวัฒน์”นำทีมพญาเสือบุกยึดแคมป์ช้างทวีชัย งัดหลักฐานเด็ดบุกรุกที่อุทยาน 36 ไร่กว่า 10 ปี สั่งย้ายช้าง 28 เชือกใน 30 วัน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่19 เม.ย.60 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายวัลลภ พิสุทธิ์พิเชษฐ์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่านายไพทูรย์ อินทรวิจิตร หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายปรยุฐน์ ไวว่อง หน.อุทยานฯเอราวัณ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข ผช.หน.อุทยานฯเอราวัณ/ผช.หน.ชุดพญาเสือ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่ปกครองอ.เมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ปทส. หน่วยปฎิบัติการพิเศษที่ 1 ภาคกลาง  ทหารชุดร้อยรส.ที่1 ร.9พัน3 กว่า 80 นาย เดินทางไปยังทวีชัยแคมป์ช้าง ม.6 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

เมื่อไปถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมนายยรรยง เลขาวิจิตร ได้พบนายดำรง หลงสกุล อายุ 47 ปี อยู่เลขที่ 5/5 ม.3 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้จัดการทวีชัยแคมป์ช้าง โดยแจ้งให้ทราบว่าพื้นที่ของแคมป์ช้างแห่งนี้ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ  ซึ่งเป็นการบุกรุกพื้นที่อนุรักษ์

โดยนายดำรงค์ก็แจ้งว่าได้ซื้อมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยนำเอกสารหลักฐานใบภบท.5 จำนวนเนื้อที่ 48 ไร่ และใบสค.1 จำนวนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ  มาแสดงโดยนายชัยวัฒน์ ได้ชี้แจงว่าหลักฐานเอกสารดังกล่าวนั้น ไม่สามารถใช้ในการครอบครองได้ เนื่องจากมีการครอบครองหลังประกาศพรบ.ป่าไม้ 2481

ด้านนายชัยวัฒน์  เปิดเผยว่าการตรวจสอบพื้นที่วันนี้นั้น หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบในทางลับทราบว่า แคมป์ช้างแห่งนี้บุกรุกพื้นที่อุทยานฯเอราวัณ มานานกว่า 10 ปี ประกอบกิจการมาโดยตลอด ทั้งนี้จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าแคมป์ช้างทวีชัย บุกรุกพื้นที่อุทยานฯรวม 36 ไร่ จึงได้แจ้งให้หยุดกิจการและขนย้ายช้าง 28 เชือก และสิ่งของทั้งหมด ออกจากพื้นที่อนุรักษ์แห่งนี้ ภายในกำหนดเวลา 30 วัน โดยหลังจากนี้ ก็จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีกับผู้ครอบครอง ต่อพนักงานสอบสวนสภ.ลาดหญ้าต่อไป อีกทั้งเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่ากาญจนบุรี ก็จะแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เพราะมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแม่น้ำ ทั้งนี้จะจัดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทุกวันว่าผู้ประกอบการ ได้ดำเนินการตามกฎหมายมาตรา 21 และมาตรา 22 หรือไม่อย่างไร

ส่วนในกรณีที่ปลัดอำเภอไทรโยคหลังถูกนายชัยวัฒน์ แจ้งดำเนินคดีในมาตรา 157 โดยต่อมาปลัดอำเภอได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค ให้ดำเนินคดีกับนายชัยวัฒน์ตามข้อหา 157 เช่นเดียวกัน นั้น หน.ชุดพญาเสือ กล่าวว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตนพร้อมรับอยู่แล้ว หากเจ้าหน้าที่ไม่ผิดตนก็ผิด ต้องรับโทษเช่นเดียวกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่มีปัญหาอะไร ตนทำตามพยานหลักฐานเท่านั้น หน.พญาเสือกล่าวในที่สุด

ข่าว/ภาพ วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.กาญจนบุรี