พลิกลิ้นรายวัน!! “โดนัลด์ ทรัมป์” ยอมรับ “อิหร่าน” ไม่เคยละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ แค่ “สหรัฐฯ” กลัวจะเป็นภัยต่อความมั่นคง

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณีรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร พอล ไรอัน เมื่อวันที่ 18 เมษายน โดยทางด้านเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ที่ทำร่วมกับกลุ่ม P5+1 เมื่อปี 2015 อย่างครบถ้วน ทว่าสหรัฐฯ ยังกังวลเรื่องที่อิหร่านทำตัวเป็นรัฐที่สนับสนุนก่อการร้าย

 

 

ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีหน้าที่จะต้องแจ้งรายงานต่อสภาคองเกรสทุกๆ 90 วันว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในแผนปฏิบัติการร่วมฉบับสมบูรณ์ (Joint Comprehensive Plan of Action - JCPOA) หรือไม่ ซึ่งการแจ้งรายงานครั้งล่าสุดก็ถือเป็นครั้งแรกสำหรับรัฐบาลภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์
โดยทางด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีคำสั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้นำหน่วยงานต่างๆ ทบทวนแผนปฎิบัติการร่วมฉบับสมบูรณ์ JCPOA เพื่อประเมินว่าการระงับคว่ำบาตรเนื่องจากอิหร่านได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของ JCPOA นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาหรือไม่

 

 

ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจ ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส บวกเยอรมนี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อิหร่านยอมลดทอนกิจกรรมนิวเคลียร์ลง โดยนานาชาติจะยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันและธุรกรรมการเงินให้เป็นสิ่งตอบแทน

อิหร่านจะยืนยันว่าไม่เคยคิดพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง แต่ผู้เชี่ยวชาญนิวเคลียร์ก็เตือนว่า หากสหรัฐฯ เป็นฝ่ายละเมิดสัญญาก่อนก็เท่ากับเปิดทางให้อิหร่านเลิกผูกมัดตนเองกับข้อตกลงนิวเคลียร์