ยังไงเสื้อแดง..ยังอยากเป็น"ไพร่"อยู่มั้ย?! หลัง"หญิงปู" ปูดตัวเลขค่าใช้จ่ายเดือนละ2.6ล้าน โดยอ้างตัวเองลำบาก-ขอศาลทุเลาชดใช้โกงข้าว

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
 

ก่อนหยุดยาวสงกรานต์ หากไม่นับคำสั่ง ม.44 ห้ามนั่งท้ายกระบะจนก่อให้เกิด "ดราม่าเชิงข่าว" ไปทั่วทุกสารทิศแล้ว หากโฟกัสกันจริง ๆ จะพบว่ามีข่าวการเมืองสำคัญชิ้นหนึ่ง แต่ก็ถูกกระแสดราม่านั่งกระบะกลบหายไปจนได้ นั่นคือ...ข่าวตุลาการศาลปกครองกลาง ได้เมินคำขอทุเลาเรียกค่าสินไหม 3.5 หมื่นล้านจากคดีโกงข้าวของ "น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯ หญิงผู้เป็นหุ่นเชิด โดยศาลชี้เปรี้ยงว่า เรื่องนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไข เพราะกรมบังคับคดียังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มีหนังสือแจ้งเตือนเท่านั้น...ยิ่งลักษณ์ฟูมฟายไปเอง


อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะเอาเข้าจริงเมื่อกรมบังคับคดีขยับจริง เธอก็อาจขอทุเลาอีกครั้ง...ตามแนวทางการต่อสู้ที่ทนายวางไว้แน่ ทว่า...สิ่งที่ทำให้ "ช็อก" ความรู้สึกของสังคม...โดยเฉพาะพี่น้องเสื้อแดงที่อ้างตัวว่าเป็น "ไพร่" และพากันลงสู่ถนนเพื่อปกป้อง "เธอ" และ "ตระกูลชินวัตร" ก็คือตัวเลขที่เธอปูดออกมาเองว่า...เธอนั้นมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนถึงจำนวน 2.6 ล้านบาทไทย


โดยเธออ้างต่อศาลว่า "หลังจากพ้นตำแหน่งนายกฯ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2557 ลงวันที่ 7 พ.ค.57 ให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแล้ว และปัจจุบันเธอมีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพตามสถานะทางสังคม และฐานานุรูปที่เป็นอดีตนายกฯ และผู้บริหารระดับสูงในภาคเอกชนหลายแห่ง โดยเฉลี่ยเดือนละ 2,650,000 บาท" 


ว่าไปแล้วเงิน 2.6 ล้านบาทต่อเดือน นับเป็นเงินจำนวนมหาศาลหากเทียบกับรายได้ของประชากรประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างเรา หากยึดหลักง่าย ๆ ตามนโยบายประชานิยมสิ้นคิด "เงินเดือน 15,000 บาท" ของพรรคเธอเอง ชายหนุ่ม-หญิงสาวที่จบปริญญาตรีใหม่ ๆ ที่ได้เงินเดือน 15,000 ซึ่งน้อยรายที่จะได้จริง หนุ่ม-สาวเหล่านั้นต้องทำงานเก็บเงินถึง 14 ปีครึ่ง...โดยต้องไม่ใช้จ่ายใด ๆ เลยในระหว่างนั้น...จึงได้เงินดังกล่าวมาเชยชม


...ใช่ คำนวณไม่ผิด หนุ่ม-สาวเหล่านั้นต้องทำงานเก็บเงินถึง 14 ปีครึ่ง...โดยต้องไม่ใช้จ่ายใด ๆ เลย...คำถามคือ เสื้อแดงที่บอกว่า "ตัวเองเป็นไพร่" เป็นคนรากหญ้า...ค่อนข้างยากจน และอาจมีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท ต้องตรากตรำหลังขดหลังแข็งทำงานหนักกี่สิบปี...จึงได้เม็ดเงินเท่ากับ...อดีตนายกฯ หญิงผู้เป็นหุ่นเชิดที่พวกเขาบูชา...ใช้จ่ายแค่เดือนเดียว

 

...อย่าว่าแต่ "คนเสื้อแดงที่เป็นชนชั้นกลาง" บางคน...เก็บงำมาทั้งชีวิตยังไม่เฉียดใกล้ที่เธอจ่ายครึ่งเดือน (หมายถึง 1.3 ล้านบาท)


คราวนี้หากมองลึกลงไปในรายละเอียดยิ่งตกตะลึก เพราะเธอแจ้งว่า เธอมีค่าใช้จ่ายในการพบปะประชาชนถึงเดือนละ 450,000 บาท โดยเธอแจกแจงค่าใช้จ่ายไว้ 5 รายการดังนี้ 1.ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเป็นเงิน 1,000,000 บาท 2.ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา กิจกรรมทางการศึกษา ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของบุตร เป็นเงิน 200,000 บาท 3.ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี 200,000 บาท 4.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 800,000 บาท และ 5.ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนประชาชนเป็นเงิน 450,000 บาท 

 

อย่างไรก็ตาม ลูกอ้อนแบบ "ผิดที่ผิดเวลา" ของเธอใช้ไม่ได้ผล เมื่อองค์คณะตุลาการเสียงข้างมากได้มีมติ 6 ต่อ 2 มีคำสั่งยกคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยระบุว่า การที่ศาลจะมีอำนาจออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทในระหว่างพิจารณาคดีได้นั้น ต้องมีเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 3 ประการครบถ้วน คือ 1.คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย 2.การให้คำสั่งพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง และ 3.การทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาท ไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ

อย่างที่กล่าวแต่แรก แม้ศาลจะยกคำร้องในเที่ยวหนนี้ แต่เอาเข้าจริงเมื่อกรมบังคับคดีขยับจริง เธอก็อาจขอทุเลาอีกครั้ง...ตามแนวทางการต่อสู้ที่ทนายวางไว้แน่ แต่ทว่า...สิ่งที่พี่น้องเสื้อแดง โดยเฉพาะพวกที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ แล้วถูกหัวคะแนนนักการเมืองนำมาสู่ถนน เพื่อเป็นโล่มนุษย์-เงื่อนไขทางการเมือง ปกป้อง "เธอ" และ "ตระกูลชินวัตร" ของเธอ จะตาสว่างได้หรือยังว่า...ตนเองยังจะต้องเป็น "ไพร่" ให้อภิมหาโคตรเศรษฐีทางการเมือง...เชิดอยู่อีกหรือไม่??!