ช่วยกันแชร์เตือนภัยโจรยุค4G.!!!หนุ่มพ่อค้าออนไลน์เสียท่าโดนหลอกขายไมโลคิวบ์ทางเฟซบุ๊ค อ้างได้มาถูก!!โอนเงินให้เกือบ2แสนบาท สุดท้ายปิดเพจหนี

 จากเหตุการณ์  โลกโซเชียลแห่แชร์เฟสบุ๊คของผู้ที่ใช้ชื่อว่า หาญศึก แลพิทักษ์ หลังได้นำหลักฐานการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ว่าถูกหลอกขายไมโลคิวบ์ ทำให้ตนเสียหายหลายแสนบาท  โดยผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อว่า หาญศึก แลพิทักษ์ ได้พิมพ์ข้อความว่า ฝากเตือนภัยด้วยนะครับ เพื่อนๆท่านใดที่คิดจะขายไมโลคิวบ์ให้ระวังบุคคลคนนี้ให้ดีๆ

เมื่อวันที่17/4/60 ผมกับแฟนได้ลงทุนรับไมโลคิวบ์มาจำหน่ายและรับออเดอร์ไมโลคิวบ์จากลูกค้าทั่วประเทศ ยอดรับออเดอร์ดีมากถล่มทะลายในคืนเดียวเกือบ3แสนบาท ผมกับแฟนได้รับการแนะนำจากบุคคลที่น่าเชื่อถือให้ติดต่อไปรับไมโลคิวบ์มาจากบุคคลคนนึงที่กล่าวอ้างว่านำเข้าไมโลคิวบ์จากมาเลเซียมาได้ในราคาถูกเพราะเขามีพ่อเป็น ตม.ที่ด่านสะเดา เขาใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า "ความ ทรงจำ" ชื่อเล่นว่า "น้ำ" ผมกับแฟนจึงเชื่อใจติดต่อไปตกลงทำธุระกิจร่วมกัน มีการโอนเงินให้กันหลายครั้งจากการรับออเดอร์เพื่อให้เขาส่งสินค้าให้ลูกค้า รวมยอดที่โอนทั้งหมด 167,900บาท

     ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามเจ้าของเฟสดังกล่าว ทราบชื่อคือนายหาญศึก  แจพิทักษ์ อายุ 39 ปี และ นางสาวสุภาภรณ์  โคตรหนองปิง อายุ 26 ปี ได้เปิดว่าได้ถูกหลอกขายผลิตภัณฑ์ไมโลคิ้ว เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทขนม ที่กำลังได้รับความนิยม โดยทั้งสองได้เล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ตนเองได้รับการแนะนำจากเพื่อนที่ขายของ ออนไลน์ด้วยกันว่า ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ไมโลคิ้ว เป็นขนมรูปร่างสี่เหลี่นสเท่าลูกเต๋า กำลังได้รับความนิยม จึงได้แนะนำให้ลูกจักกับแม่ค้าที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า ความ ทรงจำ โดยในรูปเป็นหญิงสาว จากนั้นได้มีการ พูดคุยสอบถามกัน โดยทางมิจฉาชีพบอกว่า พ่อเป็นตำรวจทำงานอยู่ด่านพรมแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สามารถนำผลิตภัณฑ์ไมโลคิวบ์ข้ามมาจากประเทศมาเลเซียได้ 

      จากนั้นตนเองจึงได้มีการโพสขายผ่านเฟสบุ๊ค จนมีลูกค้าสั่งตนเองจำนวนมาก โดยได้มีการ โอนเงินจำนวน 8 ครั้ง เข้าบัญชีนายวัชรินทร์  จันทร์หอม บัญชีธนาคาร  เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 167,900 บาท และเมื่อวานนี้ ( 18 เม.ย.60 ) ขณะที่กำลังเดินทางกลับจาก จังหวัดมหาสารคาม เพื่อนได้ทัก มาว่า คนที่มาติดต่อขายผลิตภัณฑ์ไมโลคิ้ว ได้มีการบล๊อคเฟสบุ๊คกับคนจำนวนมาก ที่ได้มีการโอนเงิน และสั่งของไป จากนั้นตนเองมาตรวจสอบพบว่าโดนบล๊อคเช่นกัน และไม่สามารถติดต่อได้ จึงมั่นใจว่า ถูกหลอกจริง จึงได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจไว้เป็นลักฐาน เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป ส่วนเงินที่ลูกค้าตนเองโอนมาสั่งจอง ขณะนี้ได้ขายทองรูปพรรณ และของมีค่า และโอนคืนให้ กับลูกค้าตนเองทั้งหมดแล้ว เพื่อรักษาเครดิตของตนเองเนื่องจากว่า ตนเองมีอาชีพขายของบนโลกออนไลน์    

นิติกรณ์ ฝางมาลา  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ขอนแก่น