ปรีดี พนมยงค์ยืนยัน"พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7" เตรียมพระราชทานรัฐธรรมนูญจริง!!.ก่อนถูกยึดอำนาจโดยคณะราษฎร ชิงสุกก่อนห่าม!!??

ปรีดี พนมยงค์ยืนยัน"พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7" เตรียมพระราชทานรัฐธรรมนูญจริง!!.ก่อนถูกยึดอำนาจโดยคณะราษฎร ชิงสุกก่อนห่าม!!??

ภายหลังจากที่คณะราษฎรได้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 24มิถุนายน พ.ศ.2475  แล้ว ได้มีการถกเถียงกันจากหลายฝ่ายจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เรื่องคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งอาจจะถือได้ว่าชิงสุกก่อนห่าม  เนื่องจากว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7 ทรงร่างพระราชธรรมนูญไว้อยู่แล้ว ซึ่งในทางประวัติศาสตร์ได้หาข้อมูล มาหักล้างว่าจริงเท็จแต่ประการใด

ปรากฎว่าในการประชุมกรรมารุการพิจารณาเค้าโครงเศรษฐกิจแห่งชาติ ณ. วังปารุสกวัน ในวันที่12มีนาคม 2476   โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม คือ หลวงคหกรรมบดี ,หลวงเดชสหกรณ์ ,หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์,พ.อ.พระยาทรงสุรเดช,นายทวี บุณยเกตุ,นายแนบ พหลโยธิน,หลวงประดิษฐ์มนูธรรม,นายประยูร ภมรมนตรี,พระยามโนปกรณ์นิติธาดา,พล.ร.ท. พระยาราชวังสัน,นายวิลาศ โอสถานนท์ ,พระยาศรีวิสารวาจา,ม.จ.สกลวรรณากร วรวรรณ และหลวงอรรถสารประสิทธิ์

 

ได้เริ่มประชุมเริ่มเวลา 08.20 น. โดยหลวงประดิษฐ์มนูธรรม หรือนายปรีดี พนมยงค์ได้เป็นผู้แถลง และในการประชุมวันนั้นได้มีการถกเถียงกันเรื่องว่าเค้าโครงเศรษฐกิจ ที่ประชาชนจะเข้าใจ เพราะมีรายละเอียดลึกซึ่ง อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันหรือไม่ ซึ่งในการถกเถียงดังเกล้า ในที่ประชุมก็เห็นว่าควรที่จะเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ แต่การเปิดเผยนั้น จะเป็นในนามรัฐบาล หรือในฐานะส่วนตัวของนายปรีดี หรือไม่นั้นขณะนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียกันอยู่

ทั้งนี้ระหว่างการประชุมนั้น โดยรายงานการประชุมได้บันทึกไว้ว่า นายปรีดีเห็นว่าควรที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ โดยยกตัวอย่างเรื่อง"พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระดำริที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบ จนกระทั้งเป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น โดยมีถอยคำที่มีการบันทึกไว้ดังนี้

"พระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำริจะพระราชทานรัฐธรรมนูญแก่ราษฎร ส่งให้พระยาศรีวิสารวาจา แต่ไม่ประกาศให้ประชาชนทราบ จึงเกิดมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น อย่างเดียวกัน ถ้าเราได้ประกาศโครงการให้ทราบแล้วเรื่องระแวงคงไม่มี..."

ตามหลักฐานดังกล่าวก็เป็นที่แน่ชัดว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการเตรียมพระราชธรรมนูญจริง

ปรีดี พนมยงค์ยืนยัน"พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7" เตรียมพระราชทานรัฐธรรมนูญจริง!!.ก่อนถูกยึดอำนาจโดยคณะราษฎร ชิงสุกก่อนห่าม!!??

ทั้งนี้เอกสารที่ปรากฎอ้างอิงมาจาก เอกสารของดร.เดือน บุนนาค ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของนายปรีดี พนมยงค์

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7มีแผนพระราชทานรัฐธรรมนูญ ที่เป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ โดยให้พระยาศรีวิศาลวาจา ปรึกษาหารือกับ นาย Raymond Bartlett Stevens ชาวอเมริกัน ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของ พระยาศรีวิสารวาจา ปลัดทูลฉลองกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อร่าง รธน.แล้วเสร็จเป็นรูปร่างปี 2474ได้กำหนดรูปแบบการปกครอง กำหนดความสัมพันธ์อำนาจบริหาร และอำนาจนิติบัญญัติ ตลอดจนกำหนดวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไว้ด้วย ตั้งพระทัยจะประกาศใช้ 6 เมษายน 2475 ในโอกาสฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 150 ปี แต่เจ้านายฝ่ายไทย และนายสตีเวนส์ เห็นว่าน่าจะชะลออกไปก่อน เพื่อให้เวลาคนไทยได้ศึกษา และมีความเข้าใจ

พระองค์ทรงตระหนักพระราชหฤทัยตั้งแต่ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ว่า จะต้องคิดเตรียมการรับการ ให้สิทธิทางการเมืองแก่ประชาชน ที่จะเกิดขึ้นโดยลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป ยิ่งมีคนที่ได้รับการศึกษามีความรู้มากขึ้น ย่อมมีความต้องการที่จะมีสิทธิในการปกครองระบบรัฐสภา จะต้องถึงเวลาอันสมควรเปลี่ยนระบอบการปกครอง ในวันหนึ่งอย่างแน่นอน จึงทรงมีพระราชดำริว่า ในขณะที่รอเวลาที่จะมาถึงนั้น ถ้าหากขัดไว้ช้าเกินไปแล้ว ต้องยอมให้ ไม่เหมาะสมและอาจเป็นผลให้เกิดจลาจลขึ้น ในบ้านเมือง เช่นที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงทรงมีพระราชดำริว่า จะต้องคิดเตรียมการไว้ 

พระราชบันทึก Democracy in Siam นับเป็นหลักฐานเอกสารสำคัญที่สุด ทรงแสดงให้เห็นถึงความจำเป็น ที่จะต้องเตรียมการรับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งแนวทางของการเตรียมการตามพระราชดำริ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาองคมนตรีนั้น ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงพระราชประสงค์สองประการคือ 
1. เป็นการทดลองและเรียนรู้ถึงวิธีการประชุมปรึกษาของรัฐสภา 
2. เป็นพลังที่จะใช้ต้านทานการใช้อำนาจในทางที่ผิด