“อยู่ไม่ได้ก็เชิญ ไม่มีใจก็ไม่ต้องอยู่”ประธานปปช.ของขึ้นกลางงานสัมมนา!!!คดีหมดอายุความ บอกไม่เคยโทษจนท. ออกไปก็หาคนใหม่???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติ และแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย พร้อมแถลงข่าวผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ช่วง 6 เดือนแรกปี 2560  โดย พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  กล่าวกับผู้บริหารและผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดทั่วประเทศ

       ทั้งนี้ประธานปปช. ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องคดีที่หมดอายุความยืนยันว่ากรรมการ ป.ป.ช. ไม่เคยกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีคนสุดท้ายที่ทำให้คดีหมดอายุความ แต่ถ้าจะกล่าวโทษต้องดูตั้งแต่ต้นตอว่าที่ผ่านมาคดีนั้นๆใครเป็นผู้รับผิดชอบบ้างเพื่อให้ความเป็นธรรม และขออย่ายกตัวอย่างกรณีสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดปทุมธานี ที่มีคนขอลาออก 2-3 คน ไปอยู่องค์กรอื่นให้เป็นประเด็น กรรมการ ป.ป.ช.ไม่ว่า แต่ถ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ หรืออยู่ไม่ได้ก็เชิญ ไม่มีใจก็ไม่ต้องอยู่ เพราะสร้างคนใหม่ได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ทุกคดีไม่ว่าเจ้าหน้าที่ไต่สวนอย่างไร สุดท้ายคนที่รับผิดชอบคือกรรมการ ป.ป.ช. ทุกคน ยืนยันว่ารักองค์กรและเจ้าหน้าที่

“อยู่ไม่ได้ก็เชิญ ไม่มีใจก็ไม่ต้องอยู่”ประธานปปช.ของขึ้นกลางงานสัมมนา!!!คดีหมดอายุความ บอกไม่เคยโทษจนท. ออกไปก็หาคนใหม่???

       อย่างไรก็ตามระหว่างที่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอยู่มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้เชิญตัวผู้สื่อข่าวออกจากห้องสัมมนาทันที และภายหลังงานสัมมนาดังกล่าว ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ลาออกหลายคนจนทำให้มีปัญหาต่อการไต่สวนคดีนั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คนเหล่านี้จบนิติศาสตร์ เป้าหมายในชีวิตอยากเป็นตุลาการ หากไม่ได้จะเป็นอัยการ และถ้าไม่ได้ทั้งสองอย่างจะมาอยู่ ป.ป.ช. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นปกติที่คนอยากประสบความสำเร็จ จึงไปสอบเป็นตุลาการ และอัยการ บางคนลาออกไปเพราะอยากมุ่งมั่นในการอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่เหตุผลว่าป.ป.ช. กดดัน เพราะฉะนั้นถ้าเขาไม่อยากอยู่ก็ห้ามไม่ได้ แต่พยายามจะไม่ให้เลือดไหลออกแล้ว พยายามจะให้เลือดไหลเข้าแทน

 

       นอกจากนี้พล.ต.อ.วัชรพล ยังกล่าวอีกว่า สำหรับคดีสินบนข้ามชาติ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวน 15 เรื่อง โดยจะมีเสร็จเรื่องหนึ่งในเดือน ก.ย 2560 เป็นเรื่องที่ต้องดีใจ และได้ขับเคลื่อนการทำงานด้านทุจริต เช่น กรณีนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญาในคดีเรียกรับสินบนจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ เป็นต้น ทำให้สังคมเห็นว่า การคอร์รัปชั่นมีการนำทรัพย์สินออกไปอย่างไร ต้องนำกลับคืนมาสู่รัฐให้ได้ และคนที่เอาไปต้องได้รับโทษทัณฑ์

“อยู่ไม่ได้ก็เชิญ ไม่มีใจก็ไม่ต้องอยู่”ประธานปปช.ของขึ้นกลางงานสัมมนา!!!คดีหมดอายุความ บอกไม่เคยโทษจนท. ออกไปก็หาคนใหม่???