ลาออก !!! "สุรพงษ์" ไขก๊อกเพื่อไทย 27 เม.ย.นี้ เหตุไม่อยากยุ่งการเมืองช่วงถูกถอดถอน

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดี ที่ 27 เมษายนนี้ ตนจะเดินทางไปยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทย (พท.) กับรักษาการหัวหน้าพรรคพท.ในเวลา 10.00 น. ทั้งนี้ เหตุผลที่ตนยื่นใบลาออกจากพรรคพท. เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในช่วงที่ถูกถอดถอน และอยากทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมแทน แต่จะทำอะไรต่อไปนั้นตนจะขอชี้แจงในวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน ประมาณ 4-5 ข้อ

วันเดียวกัน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลโพลสวนดุสิตโพล ระบุถึงปัญหาของรัฐบาลที่ประชาชนหนักใจที่สุด คือ ปัญหาเศรษฐกิจว่า ที่ผ่านมาเคยกล่าวหลายครั้งว่า ต่อให้ "ร้อยสมคิด" หรือเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจก็ไม่อาจแก้ได้ ไม่ใช่เพราะไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะระบบการเมืองขณะนี้ไม่เอื้อต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ขอฝากข้อสังเกตว่า หลังจากรัฐธรรมนูญบังคับใช้ เท่ากับสถานการณ์เปิดว่าบ้านเมืองจะมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นโจทย์ใหญ่ คือ การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงควรใช้กลไกปกติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญบริหารประเทศ เลิกใช้กลไกพิเศษควบคุมดูแลบริหารประเทศ ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะดำเนินการเหมือนสถานการณ์อยู่ในห้วงรัฐประหาร ทั้งที่ใช้เวลาบริหารประเทศจะครบ 3 ปี มีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า เมื่อการเมืองไม่ปกติ นักลงทุนจึงขาดความเชื่อมั่น แม้แต่คนไทยด้วยกันยังไม่กล้าลงทุน มีแต่การลงทุนจากภาครัฐขาเดียวทำให้ประเทศพิการด้วยการเดินขาเดียวโดยภาครัฐเท่านั้น ขอฝากรัฐบาลเร่งส่งสัญญาณบวกให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ทั้งนี้ “สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,119 คน ระหว่างวันที่ 18-22 เมษายน 2560 เรื่องการบริหารประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กำลังก้าวสู่ปีที่ 3 โดยยังคงดำเนินงานตามโรดแมปที่วางไว้ เน้นบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ของประเทศ และดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล สรุปผลได้ ดังนี้
          ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ในการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ให้ 70.51% เพราะมีการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ต่อเนื่อง จริงจัง มีผลงานให้เห็นชัดเจน รัฐบาลให้ความสำคัญ ฯลฯ 
          แต่เศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบาก ประชาชนให้ 76.50% ซึ่งจะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ลดลง เพราะทำให้การค้าการลงทุนหยุดชะงัก ค่าครองชีพแพง ประชาชนตกงาน ต้องกู้หนี้ยืมสิน รายได้ไม่พอจ่าย ฯลฯ  
          โดยภาพรวม ณ วันนี้ ประชาชนมีความนิยมชมชอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เท่าเดิม 44.77% เพราะมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี สามารถควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาต่างๆได้ ทำงานด้วยความเสียสละ ฯลฯ
          ส่วนสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คือ มากสุดคือให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง คุณภาพชีวิตของประชาชน ให้          80.70%
รองลงมาให้ดำเนินงานตามโรดแมป จัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ให้ 71.58% และอยากให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้ 69.97%