ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 เม.ย. 2560 นายธนวัฒน์ ภู่พลับ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจเยี่ยม นายคูณ แก้วสอน อายุ 78 ปี หลังจากมีผู้ใช้ เฟซบุ๊ค ชื่อ New Nln โพสต์ข้อความ “วันนี้ก็มีเรื่องสะเทือนใจ..ตาที่เคยมานั่งขอค่าอาหารให้หมาที่เราเห็นจนคุ้นตาทุกตลาดนัดต่อไปตาจะไม่สามารถมาขอค่าอาหารให้น้องหมาได้อีก #เนื่องจากทางเทศบาลไม่ให้ตามานั่งถ้าจะมานั่งต้องไปทำเรื่องซึ่งตาไม่เข้าใจซึ่งก็น่าจะใช้เวลานาน ที่ฟังมาคร่าวๆ ที่พักอาศัยไม่ใช่ที่ของตาเป็นที่อยู่ของผู้ใจบุญ ที่บ้านไม่มี ไฟใช้ตะแกรง ซึ่งหมาที่บ้านตามีทั้งหมด 17 ตัว ค่าใช้จ่ายจึงมากในแต่ละวัน ตาเองก็กินข้าวกับน้ำปลา หรือเก็บผักข้างบ้านกินจึงอยากขอความกรุณาเพื่อนๆหรือคนที่ต้องการจะช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร หรือว่า ข้าวสาร อาหารแห้ง หรือจะเป็นอาหารสุนัขเม็ดเล็กก็ได้ #ลุงชื่อลุงคูณ แก้วสอน อายุ 77 ลุงเป็นโรคมะเร็งปลอดระยะสุดท้าย สนใจบริจาคติดต่อกลับมาได้นะคะ ขอบคุณคะ #ตาไม่ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะคะแก่เป็นมะเร็งหมอเลยห้ามไว้” พร้อมภาพชายชรา และสุนัขจำนวนหนึ่ง พร้อมป้าย ขอค่าอาหารให้น้องหมา ซึ่งมีผู้แชร์เข้าสู่กลุ่มสาธารณะ และ แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

วอนเมตตา!!!คุณตาที่มาขออาหารให้สุนัขในตลาดไม่มาแล้ว หลังพม.รุดแจ้งเตรียมช่วยเหลือหาที่อยู่ให้!!ตาลั่นจะขออยู่กับสุนัขจนกว่าจะตายจากกัน

อย่างไรก็ตามสภาพที่พักของนายคูณ ลักษณะเป็นเพียงเพิงไม้ ยกพื้นสูง ไม่มีฝาผนัง ไม่มีเครื่องครัวหรืออุปกรณ์อื่นใด มีเพียง มุ้ง หมอน 1 ใบ และผ้าห่ม กับสุนัขพันธุ์ต่างๆ จำวน กว่า 14 ตัว โดยเพิงดังกล่าวถูกสร้างอยู่บนที่ดินแปลงเล็กๆ ในตรอก บริเวณแยกวัดโพธิ์ ถนนตลาดใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบนายคูณ อาศัยอยู่ตามลำพัง กับสภาพดังกล่าวมานานเกือบ 20 ปี  ด้านนายธนวัฒน์ ภู่พลับ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้เดินทางมาติดตามสภาพความเป็นอยู่ของนายคูณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ได้ติดตามและสอบถาม พร้อมห้ามไม่ให้นายคูณ แก้วสอน นำสุนัขมานั่งขออาหาร หรือเงินสนับสนุนค่าอาหาร เนื่องจาก ผิด พระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ จนกระทั้งเมื่อวานนี้(23 เม.ย.) ได้เข้าติดตาม พร้อมตักเตือนอีกครั้ง ก่อนจะมีการแพร่ข้อความและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก จึงได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม สภาพความเป็นอยู่ของนายคูณ และหาทางช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นศูนย์จะส่งนายคูณ ไปอาศัยที่ศูนย์พักพิงคนชรา จ.สงขลา แต่นายคูณปฎิเสธ เนื่องจากเป็นห่วงสุนัขจึงได้ให้การช่วยเหลือด้วยการจัดเงินสวัสดิการ ให้นายคูณ นำไปลงทุนขายลอตเตอรี่แทน ส่วนการช่วยเหลืออื่น ๆ จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

วอนเมตตา!!!คุณตาที่มาขออาหารให้สุนัขในตลาดไม่มาแล้ว หลังพม.รุดแจ้งเตรียมช่วยเหลือหาที่อยู่ให้!!ตาลั่นจะขออยู่กับสุนัขจนกว่าจะตายจากกัน

โดยหลังจากนี้ นายคูณ จะต้องไม่นำสุนัขออกไปหาเงินสนับสนุนอีก ด้านนายคูณ แก้วสอน กล่าวว่า เดิมตนเอง เป็นชาว เพชรบูรณ์ เดินทางมาอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 ก่อนหน้านี้มีอาชีพดูแลสวนสาธารณะเป็นลูกจ้างชั่วคราวของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หลังจากเกษียณอายุ ก็รับจ้างทั่วไป สำหรับสุนัขทั้งหมด เป็นสุนัขจรจัดที่ตนเองเก็บมาเลี้ยงได้ประมาณ 4 ปี และจะนำออกไปหาค่าสนับสนุนอาหารในวันอาทิตย์โดยการยืมรถ จยย.พ่วงข้างของแม่ค้าผักในตลาดที่รู้จักและสนิทกัน และบางวันก็นำใส่รถจักรยาน แต่หลังที่ได้รับการตักเตือนและห้ามนำสุนัขออกไปหาค่าสนับสนุน ตนเองก็จะไม่ไปอีก แต่จะขออาศัยอยู่ที่เดิม เนื่องจากเป็นห่วงสุนัข และขอตายอยู่ที่นี่ แม้ว่าตนเองจะเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายก็ตาม ซึ่งได้นอนคิดว่าหากจะต้องแยกกันอยู่กับสุนัขที่เลี้ยงไว้ จะเอายาเบื่อให้สุนัขกินแล้วกินตายตาม เพราะชีวิต ขอตายไปพร้อมสุนัขที่เลี้ยง

วอนเมตตา!!!คุณตาที่มาขออาหารให้สุนัขในตลาดไม่มาแล้ว หลังพม.รุดแจ้งเตรียมช่วยเหลือหาที่อยู่ให้!!ตาลั่นจะขออยู่กับสุนัขจนกว่าจะตายจากกัน

วอนเมตตา!!!คุณตาที่มาขออาหารให้สุนัขในตลาดไม่มาแล้ว หลังพม.รุดแจ้งเตรียมช่วยเหลือหาที่อยู่ให้!!ตาลั่นจะขออยู่กับสุนัขจนกว่าจะตายจากกัน

ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ส้มเกลี้ยง   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.สุราษฎร์ธานี