เชียร์ "พล.อ.สมเจตน์" ปธ.กมธ.วิสามัญ ยืนหยัดผลักดันกฎหมายให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน!!

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 24 เม.ย. 2560 หลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติผ่านวาระหนึ่งไปแล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการวาระสองครับและได้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ ปรากฏว่าพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม เป็นประธานกรรมาธิการ และมีนายศิระชัย โชติรัตน์ และ พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ เป็นรองประธานกรรมาธิการ และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย เป็นโฆษกกรรมาธิการ ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้ตั้งหลักในการที่จะทำงานให้จบภายใน 45 วัน และในการประชุมนั้นจะไม่มีการให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังรายงานการประชุม แต่จะแถลงข่าวเป็นระยะๆ

คณะกรรมาธิการชุดนี้จะต้องได้รับแรงกดดันจากนักการเมืองและพรรคการเมืองทั้งหลาย หลังจากที่ได้กดดันคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้ยกร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่สำเร็จมาแล้วรอบหนึ่ง ยกตัวอย่างวันนี้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาโพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า "ร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ร่างขึ้นโดยมนุษย์ 2 ประเภท คือ 1.มนุษย์ที่บริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ไฝฝ้าราคีคาว อยู่บนหอคอยไม่เคยลงดิน เรียกว่าเป็นพวกโลกสวย 2.มนุษย์ที่มีอคติกับนักการเมืองเหมือนจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง มนุษย์พวกนี้ส่วนหนึ่งเคยบริหารพรรคการเมืองมาแล้ว แต่ล้มเหลว จึงมีอคติต่อพรรคการเมือง"

นายนิพิฏฐ์ ยังได้ระบุข้อความต่อไปอีกว่า "คนพวกนี้ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาให้จัดระเบียบสังคม วันดีคืนดี ก็ห้ามคนนั่งท้ายรถกระบะ วันดีคืนดีมาบอกว่า พรรคการเมืองเป็นความชั่วร้ายที่แฝงอยู่ในสังคมต้องขจัดออกไป ให้มีแต่คนบริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้น" ส่วนเรื่องที่ต้องจ่ายค่าสมาชิกพรรค 100 บาท นายนิพิฏฐ์ก็ไม่เห็นด้วย บอกว่า ตอนนี้คนก็ไม่อยากเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอยู่แล้ว ให้จ่าย 100 บาท ต่อไปสมาชิกพรรคการเมืองก็จะไม่เหลืออยู่

 

 

ก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.สมเจตน์ จะต้องไปตอบหรือเผชิญหน้ากับบรรดานักการเมืองทั้งหลาย แต่มีข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ชัดเจนว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ในประเทศนี้มีเจ้าของเป็นนายทุนหรือเป็นผู้กำหนด หรือเป็นของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง โดยเฉพาะส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น ไม่ได้เป็นของประชาชน แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เองซึ่งมีลักษณะเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ก็ยังคุมอำนาจอยู่ด้วยกลุ่มเพียงไม่กี่กลุ่มในพรรคเท่านั้น ไม่ได้เกิดกระแสของการหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามประชาชน-เจ้าของพรรค ปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นที่เกิดจากพรรคการเมืองต่างๆ เห็นได้อย่างชัดเจนอย่างพรรคเพื่อไทย ที่จะทำอะไรก็ต้องทำตามทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้กำหนด แม้แต่การเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมสุดซอย พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ออกมาคัดค้าน นั่นก็เป็นเรื่องที่นายนิพิฏฐ์และพรรคประชาธิปัตย์น่าจะรู้ได้ว่าเพราะนายทักษิณเป็นเจ้าของพรรค จึงทำให้เกิดความวุ่นวายและผู้คนต่างออกมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก

 

 

คำถามคือจะทำอย่างไรให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน??? นี่จึงเป็นปัญหาหลัก รูปแบบให้สมาชิกพรรคจ่ายเงิน 100 บาท เป็นเพียงรูปธรรมหนึ่งเท่านั้น ความรู้สึกในการมีส่วนร่วมถ้านับกันเป็นปีก็แค่เดือนละ 8 บาทเศษๆ เท่านั้น จะกระทบกระเทือนหรือลำบากอะไร ถ้าคนรักพรรคนั้นจริงและรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมจริง มีอุดมการณ์ในการร่วมกันผลักดันพรรคนั้นจริงๆ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ได้ข้อสรุปอันชัดเจน เมื่อประชาชนเป็นเจ้าของพรรคไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของพรรคหรือมีนายทุนเป็นเจ้าของพรรค การผลักดันให้เปิดผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ก็จะมาจากประชาชน ไอ้ขบวนการการทุจริตคอร์รัปชั่นหาเงินซื้อเสียง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของประเทศที่ทำให้นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนทุกพรรค นำพาไปสู่ความทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อหาเงินมาซื้อเสียงก็น่าที่จะเบาบางลง ก็เป็นเรื่องที่พล.อ.สมเจตน์ และคณะกรรมาธิการทั้งหลายต้องดำเนินการต่อไป ให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปการเมืองที่สำคัญที่สุดของพรรคการเมืองเสียก่อน.

 

 

 

 

ขอบคุณ แฟนข่าวสนธิญาณ