อ้าวเฮ้ย !! เรือดำน้ำจีน ฉลุยเงียบ !! ผ่าน ครม. ไปแล้ว นายกฯ- บิ๊กป้อม-กห.อุบเงียบ

อ้าวเฮ้ย !! เรือดำน้ำจีน ฉลุยเงียบ !! ผ่าน ครม. ไปแล้ว นายกฯ- บิ๊กป้อม-กห.อุบเงียบ

"พลตรีคงชีพ ตันตระวาณิชย์" โฆษกกลาโหม ยอมรับ ครม. อนุมัติ ซื้อเรือดำน้ำจีน แล้ว เมื่อ18 เมย. ที่ผ่านมาแล้ว แต่ ไม่มีการแถลง  ไม่ได้มีเจตนาปกปิด  แต่เพราะ เป็นวาระจร อีกทั้งมีหลายเรื่อง ในครม. ที่ไม่จำเป็นต้องแถลง เพราะ เริอดำน้ำไม่ใช่เรืองใหม่ เราเคยมีเริอดำมา เมื่อ 60 ปี ที่แล้ว ตอนนี้ เราก็กลับมามีอีกครั้ง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และยุทธศาสตร์ ในการป้องกันประเทศ และการทหาร

ทั้งนี้ ตลอดทั้ง สัปดาห์ จนวันนี้  พลเอกประวิตร ไม่พูดเรื่องเรือดำน้ำ กับสื่อเลย แต่ไปพูดในที่ประชุมสภากลาโหม ถึง เรือดำน้ำ ในที่ประชุมสภากลาโหมแล้ว ระบุ"อาวุธทางยุทธศาสตร์ "เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเล และใช้เป็นพลังอำนาจทางทหารในการต่อรอง/ โรงต่อมสร้างอาวุธกับจีน. รู้ผลกค.นี้

"บิ๊กป้อม" ลั่น ถ้าประเทศไม่มั่นคง กลไกอื่นก็เดินไม่ได้ ชี้มั่นคงเชื่อมโยง ในและ ต่างประเทศ ชี้รัฐพยายามลดความขัดแย้ง เร่งปรองดอง สู่ยุทธศาสตร์ชาติ และซื้ออาวุธเพื้อรักษาผลประโยชน์ทางทะเลและใช้เป็นพลังอำนาจทางทหารในการต่อรอง. เพื่อผลประโยชน์ชาติ/ พูดเป็นนัยๆ ถึง เรือดำน้ำ ในที่ประชุมสภากลาโหม ว่า การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องดูความ จำเป็นและเหมาะสม  และเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์  ในการดูแลผลประโยชน์ชาติทางทะเล และแสดงศักยภาพทางทหาร โดยไม่จำกัด ว่าจะต้องซื้อจากประเทศใด แต่ขอให้ราคาสมเหตุผล  เป็นไปตามแผน และความต้องการแท้จริงของเหล่าทัพ และทำด้วยความ โปร่งใส สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติในระยะยาว/พลเอกประวิตร" เผย โรงงานซ่อมสร้างกับจีน จะได้ข้อสรุป กค.นี้ เผย กำลังเสนอรัฐบาล ของบฯทำโรงงาน ผลิตยางรถ ทางทหารและพาณิชย์
 

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กห. กล่าวถึงสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศภาพรวม ในที่ประชุมสภากลาโหม ว่า ความมั่นคงของประเทศปัจจุบันมีความสำคัญยิ่ง และมีความเชื่อมโยงกับทุกมิติของสังคม ทั้งในและต่างประเทศ  

"ซึ่งหากบ้านเมืองไม่มีความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย กลไกต่างๆของประเทศก็เดินหน้าต่อไม่ได้ จึงจำเป็นต้องร่วมกันสร้างการตระหนักรู้ ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนในงานความมั่นคงมากขึ้น"

ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการเมืองและความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ผ่านมา  รัฐบาลพยายามทำทุกเรื่องที่ทำได้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม มุ่งเน้นให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย  โดย 2 - 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามวางรากฐานประเทศและสามารถขับเคลื่อนบริหารบ้านเมืองไปได้มาก เพราะประเทศมีความสงบเรียบร้อย  

ซึ่งการมีความสงบเรียบร้อยได้ ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เพื่อให้สังคมและประชาชนส่วนใหญ่สามารถทำมาหากินได้อย่างปกติสุข
ประเทศเรามีความขัดแย้งมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ความปรองดองกันของคนในชาติ จึงมีความสำคัญยิ่ง  
 

เพราะจะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้การเดินหน้าปฏิรูปประเทศเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดร่วมกันได้ โดยการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองมีความก้าวหน้าไปมาก จากการตอบรับและการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน 

วันนี้ จำเป็นที่เราต้องเปิดใจกว้าง รับฟังกันรอบด้าน ร่วมทบทวน เรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยเหตุผล ที่ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ ไปพร้อมๆกัน

ร่วมกันเดินหน้าสู่ "กระบวนการปรองดอง"ที่มีประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของประชาชนและการกำหนดกรอบอนาคตการอยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติสุข ซึ่งคือผลจากเป้าหมายปรองดองที่เป็นความหวังร่วมกันของทุกคนในชาติ

สำหรับการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ รัฐบาลพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสม โดยไม่จำกัดเฉพาะประเทศใด แต่ต้องครอบคลุมผลประโยชน์ที่ได้รับ ทั้งระบบอาวุธ การซ่อมบำรุง การพัฒนาบุคลากร รวมทั้งในราคาที่สมเหตุผล 

โดยต้องเป็นไปตามแผนงานและความต้องการที่แท้จริงของแต่ละเหล่าทัพ และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมความมั่นคงในอนาคต 

"โดยเฉพาะอาวุธทางยุทธศาสตร์ ที่ปัจจุบันทุกประเทศรอบบ้านในอาเซียนมีและใช้งาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเลและใช้เป็นพลังอำนาจทางทหารในการต่อรอง. เพื่อผลประโยชน์ชาติในภาพรวม" พลเอกประวิตร กล่าวในที่ประชุม


ทั้งนี้  เดิม เป็นที่จับตามองว่า ในการประชุม คณะรัฐมนตรี วันอังคาร25 เมย. นี้ ที่ พลเอกประวิตร รักษาการนายกฯ เป็นประธาน อาจมีการพิจารณา โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจีนของกองทัพเรือ

แต่ที่สุด พลตรีคงชีพ ตันตระวาณิชย์" โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า  ครม. อนุมัติ ซื้อเรือดำน้ำจีน แล้ว เมื่อ18 เมย. ที่ผ่านมาแล้ว แต่ ไม่มีการแถลง  ไม่ได้มีเจตนาปกปิด  แต่เพราะ เป็นวาระจร อีกทั้งมีหลายเรื่อง ในครม. ที่ไม่จำเป็นต้องแถลง เพราะ เริอดำน้ำไม่ใช่เรืองใหม่ เราเคยมีเริอดำมา เมื่อ 60 ปี ที่แล้ว ตอนนี้ เราก็กลับมามีอีกครั้ง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และยุทธศาสตร์ ในการป้องกันประเทศ และการทหาร

นอกจากนี้ ในที่ประชุมสภากลาโหม  พลเอกประวิตร  ยังได้สั่ง ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี อย่างใกล้ชิด ชี้ความมั่นคงในภาพรวม เชื่อม โยงกับทุกมิติของสังคม  ทั้งเหตุการณ์ ไนและ ตปท.  โดยเฉพาะ สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี  ขอให้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยยืนยัน ในความเป็นกลาง ไม่ใช่คูาขัดแย้ง และการรักษาสมดุลย์ ในภูมิภาค


พลตรีคงชีพ  กล่าวว่า พลเอกประวิตร ยัง ให้ หน่วยขึ้นตรง(นขต.กห.)และเหล่าทัพ ให้ความสาคัญกับการวิจัยพัฒนาที่มุ่งสู่การผลิตและ ใช้งานได้จริง ตามความต้องการของแต่ละกองทัพ และให้ประสานกันระหว่างเหล่าทัพอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานปฏิรูปกองทัพ ที่มุ่งสู่การพึ่งพาตนเอง อย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อให้กองทัพสามารถลดภาระงบประมาณจากการจัดหายุทโธปกรณ์ โดยการผลิต ยุทโธปกรณ์ในประเภทและชนิดที่เหมาะสมตามศักยภาพและความเชี่ยวชาญของกองทัพ

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทาร่างพระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และการจัดทายุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งมีกพหนดแล้วเสร็จ ภายในเดือนมิถุนายน


ส่วนการจัดตั้งโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ อยู่ระหว่างการหารือกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จะได้ข้อสรุปและสามารถอนุมัติแนวทางการจัดตั้งโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ภายในเดือนกรกฎาคม นี้

นอกจากนี้ มี การเพิ่มขีดความสามารถโรงงานในการผลิตยางรถยนต์ทั้งทางทหารและเชิงพาณิชย์ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการจัดทำและเสนอคำขอ งบประมาณในการดำเนินการ