งามหน้า!!ครู ศิษย์ ม.นครพนม รวมตัวขับไล่ “ดร.ภาวิช”จากนายกสภา หลังบริหารงาน 7 ปีสร้างแต่ความขัดแย้ง มีผลประโยชน์ทับซ้อน จนศาลสั่งคืนเงิน

เวลา 14.30 น. วันที่ 25 เม.ย.60  ที่บริเวณลานพนมนาคา แลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง  ถ.สุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม  มีกลุ่มนักศึกษา คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยนครพนม มารวมกลุ่มแสดงพลังชูป้ายเชิงสัญลักษณ์เพื่อขับไล่ ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช  ทองโรจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม  มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม นำโดย พ.ต.อ.ชัชวาลย์  แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.อุกกฤษฎ์  ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม รวมทั้งตำรวจปราบฝูงชนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและทหารจาก มทบ.210 อำนวยความสะดวก เพื่อป้องกันบุคคลที่ 3 มาก่อกวน  

ขณะเดียวกันกลุ่มคณาจารย์และนักศึกษาร่วมกันร้องเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัยนครพนม จากนั้น ดร.ไพฑูรย์  พวงยอด อาจารย์คณะครุศาสตร์ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการมาแสดงพลังในครั้งนี้ในฐานะศิวิไลซ์ชน และ ผศ.ดร.เพ็ญศิริ  ดำรงค์ภคภากร  คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ม.นครพนม   กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและนักศึกษาทุกคนที่มาแสดงพลังโดยมิได้มีการเกณฑ์มาแต่อย่างใด  หลังจากนั้น ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เสร็จแล้วได้แยกย้ายกันกลับไป

ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้มีหนังสือเชิญไปยังคณะคณาจารย์ ม.นครพนม เข้าประชุม ณ ห้องประชุม สภ.เมืองนครพนม เนื่องจากได้ทราบว่า มีกำหนดการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิชฯ ลาออกจากตำแหน่ง  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญประชุมกำหนดกรอบการชุมนุมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับหลักกฎหมาย และเพื่ออำนวยความสะดวกของผู้ชุมนุม ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกับผู้มีความเห็นแตกต่างกับผู้ชุมนุม   หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็แยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่

ซึ่งในหนังสือคำแถลงการณ์  ของ คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ม.นครพนม ที่แจกจ่ายแก่สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไประบุความว่า

“ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ ม.นครพนม พ.ศ. 2548 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 122 ตอนที่ 15 ก เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2548 มีผลให้มหาวิทยาลัยนครพนมอันเกิดจากการหลอมรวมสถานศึกษาในจังหวัดนครพนม ได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยนครพนม ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2548  เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ผลิตบัณฑิตที่พึงประสงค์ ตลอดจนการเสริมสร้างความรู้ และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของยุคโลกาภิวัฒน์ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของท้องถิ่น โดยใช้กลไกของธรรมาภิบาล การเงิน การกำกับมาตรฐานและเครือข่ายอุดมศึกษา บนพื้นฐานของเสรีภาพทางวิชาการ ความหลากหลาย และเอกภาพเชิงระบบ นั้น คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาและประชาชนในจังหวัดนครพนม ขอประกาศคำแถลงการณ์เพื่อให้ทราบว่า

เรามีความประสงค์เรียกร้องให้ นายภาวิช  ทองโรจน์ นายกสภามหาวิทยาลัย ลาออกจากตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย เพื่อแสดงความรับผิดชอบและความสง่างาม โดยมีเหตุผลมาจาก การบริหารงานที่ขาดหลักธรรมาภิบาลและการบริหารจัดองค์กรที่ดี มีผลประโยชน์ทับซ้อน  จนศาลฯ มีคำสั่งให้ชดใช้เงินคืนต่อแผ่นดินจำนวนนับร้อยล้านบาท ซึ่งถือว่าความชอบธรรมในการเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกต่อไป    

เล่นเกมการเมืองในมหาวิทยาลัยนครพนมตลอดที่ดำรงตำแหน่งกว่า  7 ปี  พฤติการณ์ของนายภาวิช  ทองโรจน์ ได้สร้างความขัดแย้งให้เกิดในมหาวิทยาลัย เข้าขัดขวางการพัฒนาด้านการศึกษาในทุกรูปแบบ ทำให้ชุมชน สังคมจังหวัดนครพนม และประเทศชาติเสียหาย   แทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหารโดยลงไปล้วงลูกตลอดเวลา ตัดขาดไม่ให้โอกาสคณาจารย์ บุคลากร และคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง มีส่วนร่วมในการบริหารมหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าไม่ให้เกียรติแก่ท่านอธิการบดีและคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม ที่มีความคาดหวังกับมหาวิทยาลัยนครพนมแห่งนี้

เรามีความประสงค์ขอร้องให้คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย (ในส่วนคณะกรรมการภายในมหาวิทยาลัย) สภาคณาจารย์ ลาออกจากการทำงานในตำแหน่ง เนื่องจากท่านไม่ได้ทำงานเพื่อรับใช้มหาวิทยาลัยนครพนม แต่ท่านทำงานรับใช้นายภาวิช  ทองโรจน์ โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่เบื้องหลังการทำงานของพวกท่าน พฤติการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายแก่มหาวิทยาลัยนครพนมและจังหวัดนครพนมโดยประเมินค่าไม่ได้”

 

ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล/กันต์ ธนาอัครชล ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ นครพนม รายงาน