เรื่องเรือดำน้ำมาที่นี่ !!! "ไพศาล"เหลืออด ซัด พวกเรียกร้องให้เปิดเผย...รู้ไว้ไม่มีชาติไหนจะมาแก้ผ้าแบกันดูหรอก

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ก็อนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนแบบลับๆ ตามที่กองทัพเรือเสนอ เบื้องต้นจัดซื้อแค่ 1 ลำ วงเงิน 13,500 ล้านบาท จากแผนงานโครงการที่จะจัดซื้อทั้งหมด 3 ลำ ภายใน  11 ปี นับจากนี้ รวมงบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท

โดยมติ ครม.เรื่องการอนุมัติโครงการซื้อเรือดำน้ำ เป็นไปอย่างลับๆ ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล บอกว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเอกสารลับที่สุด หรือ มุมแดง อีกทั้งเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง จึงไม่จำเป็นต้องแถลงข่าวแม้จะเป็นเรื่องใหญ่ที่สื่อมวลชนและคนไทยทั้งประเทศเฝ้าติดตาม 

ต่อมาทางด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ขาประจำที่รอจังหวะโจมตีรัฐบาล ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ประเด็นดังกล่าว ผ่านทางเฟชบุ๊คส่วนตัวเช่นกัน โดยข้อความระบุว่า

"ปล้น"

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ครม. อนุมัติซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนจำนวน 1 ลำ วงเงิน 13,500 ล้านบาท ระบุไม่มีลับลมคมในแต่ไม่แถลงเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง เผยกองทัพเรือประเมินภัยคุกคามของประเทศที่มีอาณาเขตติดกับไทยแล้ว มีความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำเพื่อป้องกันซึ่งล้วนเป็นความเท็จ เพราะเรื่องที่กองทัพเรือจะซื้อเรือดำน้ำได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมมานานแล้ว แม้กระทั่ง นรม. ยังเคยแถลงข่าวนี้ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า "เรือดำน้ำจีนถูกสุด ซื้อ 2 แถม 1 คุณภาพใช้ได้" ดังนั้น การจัดซื้อเรือดำน้ำจึงไม่ได้เป็นความลับอย่างที่กำลังบิดเบือน แต่ที่ต้องทำเป็นความลับเพราะกลัวประชาชนรู้

รัฐบาลรู้ดีว่าประชาชนคัดค้านการซื้อเรือดำน้ำ จึงต้องใช้เล่ห์เพทุบายแอบดำเนินการตอนที่ประชาชนกำลังเผลอในช่วงสงกรานต์ที่ ครม. ประกาศให้หยุดยาวจนถึงวันที่ 17 พอเปิดงานวันแรกคือวันที่ 18 ในขณะที่ประชาชนกำลังงัวเงียเพราะการเดินทางรวมทั้งกำลังสับสนกับคำสั่งห้ามนั่งในแคปและกระบะท้าย รัฐบาลจึงรีบฉวยโอกาสแอบนำเรื่องนี้เข้าไปอนุมัติใน ครม. เนื่องจาก

(1) ประเทศกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจจึงควรใช้เงินเพื่อปากท้องของประชาชนมากกว่านำไปซื้ออาวุธ
(2) ส่วนที่อ้างว่ามีภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่เป็นความจริง เพราะไทยตั้งอยู่ท่ามกลางมิตรประเทศที่ไม่ได้มีปัญหาชายแดนและกำลังจะรวมเป็นประชาคมอาเซียน และ 
(3) รัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้เงินงบประมาณจำนวนมหาศาลเพราะมาจากการรัฐประหาร จึงไม่ได้รับมอบอำนาจจากประชาชนและอยู่ในโรดแมปช่วงสุดท้ายอันถือเสมือนเป็นรัฐบาลรักษาการจึงไม่ควรดำเนินโครงการที่ผูกพันไปถึงรัฐบาลหน้า แต่สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำกลับสวนทางและทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้นเริ่มจากซื้อรถถังตามด้วยอนุมัติสองขั้นให้พรรคพวกจากนั้นแอบซื้อเรือดำน้ำ

ส่วนผู้ที่ต้องรับเคราะห์คือประชาชนที่ถูกคนพวกนี้ยึดเอาอำนาจไปยังไม่ทันได้คืนก็ถูกคนพวกนี้ตามมาฉกเงินไปซื้ออาวุธอีก อย่างไรก็ตาม เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาคงจะใช้ได้กับสัปบุรุษ แต่ไม่อาจใช้ได้กับบุคคลจำพวกที่สัปบุรุษต้องพ่ายแพ้ คนพวกนี้กระทั่งอำนาจของประชาชนยังกล้ายึดมาเป็นของตัว การแอบอนุมัติจัดซื้อเรือดำน้ำจึงถือเป็นเรื่องเล็ก ส่วนคนประเภทไหนที่สัปบุรุษต้องพ่ายแพ้ใครรู้ช่วยบอกด้วย

ทั้งนี้ก็ยังมีกระแสการตั้งข้อสงสัยอีกมากมายในสังคมโดยมีการตั้งคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลจึงต้องปิดเรื่องนี้และแอบซื้อกันแบบลับๆและเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลในเรื่องดังกล่าว

ซึ่งในวันที่ 25 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา นายไพศาล พืชมงคล ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกระแสที่เกิดขึ้น โดยโพสต์ข้อความที่มีใจความคร่าวๆว่าเรื่องเรือดำน้ำนั้นรัฐบาลได้ดำเนินการมานานแล้ว และประจวบกับสามารถจัดสรรเงินได้ลงตัวจึงได้จัดหาได้สำเร็จ และพวกที่ออกมาเรียกร้องให้เปิดเผยเรื่องนี้เคยคิดถึงความมั่นคงของชาติบ้างหรือไม่

เรื่องเรือดำน้ำมาที่นี่
แม้หวังตั้งสงบจงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์ 
เอกราชอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เป็นเรื่องที่เสียงไม่ได้ 
การจัดซื้อเรือดำน้ำ ให้กับกองทัพเรือ เป็นความจำเป็น แห่งยุคสมัย
และประเทศเพื่อนบ้านของเราต่างก็มีเรือดำน้ำกันเกือบทุกชาติและมีกันชาติละหลายๆลำ 
การจัดหาเรือดำน้ำครั้งนี้ ดำเนินการมานานแล้ว และเมื่อถึงกาลเวลาที่จำเป็นเหมาะสมและรัฐบาล สามารถจัดสรรเงินได้ การจัดหาจึงสำเร็จลง 
เรื่องแบบนี้ไม่มีชาติไหนในโลกที่เขาจะมาแก้ผ้าแบกันดูหรอกครับ 
ไอ้พวกเรียกร้องให้เปิดเผยในเรื่องนี้ ได้คิดถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติบ้างหรือเปล่าครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol