อย่ามาทำเนียน!! จนท.อช.แก่งกระจานสนธิกำลังทหารและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจยึดที่บุกรุกสร้างบ้านพักสองชั้นภายในพื้นที่อุทยาน

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2560 นายมานะ เพิ่มพูน หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผยว่า เจ้าหน้าที่อช.แก่งกระจาน นำโดย นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าชุดเฉพาะกิจอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบอำเภอแก่งกระจาน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลสองพี่น้อง ไปที่บริเวณป่าบ้านท่าลิงลม ท้องที่หมู่ที่ 3 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในที่เกิดเหตุ ได้พบกับนายขจรศักดิ์ ธาตวากร ซึ่งได้แสดงตัวว่าเป็นผู้ดูแลพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง จึงได้สอบถามว่าเจ้าของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เป็นของใคร นายขจรศักดิ์ ฯ ในฐานะผู้ดูแล ระบุว่าเจ้าของชื่อ นางปิยาทิพย์ ธาตวากร อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 333/133 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพี่สาวของตนเอง

จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ ฯจึงขอตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด พบมีสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 1 หลัง ลักษณะเป็นสิ่งปลูกสร้าง 2 ชั้น จึงทำการจับพิกัดด้วยเครื่องวัดพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม รอบแปลงพื้นที่บุกรุก พบพื้นที่ถูกบุกรุก ประมาณ1– 0 – 92 ไร่ สภาพพื้นที่ที่ถูกบุกรุก ดังกล่าวยังมีสถานะเป็นพื้นที่ป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 การกระทำดังกล่าวข้างต้น ของนาง ปิยาทิพย์ ธาตวากร และ/หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด เป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ รวม7ข้อหา ข้อหา 1. ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ข้อหา 2. ฐาน “ผู้ใดครอบครองป่าที่ถูกแผ้วถาง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็น ผู้แผ้วถางป่านั้น” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 55 ข้อหา 3. ฐาน “ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตราย ด้วยประการ ใดๆ แก่ไม้หวงห้าม ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ข้อหา 4. ฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ก่นสร้าง แผ้วถางป่า ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (1) และมาตรา 24

ข้อหา 5. ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (13) และมาตรา 27 ข้อหา 6. ฐาน “กระทำหรือละเว้นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำลายหรือทำให้ สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไป” ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 ข้อหา 7. ฐาน “ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ เป็นเหตุให้มีสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่ หรือมีสิ่งอื่นใดในอุทยานแห่งชาติผิดไปจากสภาพเดิมให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำความผิดทำลายหรือรื้อถอนสิ่งนั้น ออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติ หรือทำให้สิ่งนั้น ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณี” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 22 ทั้งนี้ การดำเนินการเป็นไปตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 64/2557และที่ 66/2557 ว่าด้วยการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ด้วย เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้จัดทำบันทึกการตรวจยึดพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว  ดาราวรรณ  เข็มตรง   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.เพชรบุรี