ถึงเวลาต้องปฏิรูป..ไม่มีข้อยกเว้นสื่อ!! อ่านชัดๆจุดยืน"สนธิญาณ"ทำไมเห็นด้วยควรถอนพ.ร.บ.สื่อฯ เหตุผลสุดต่างไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด!?!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม http://deeps.tnews.co.th/

กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ  เพราะการโหมกระพือของสื่อมวลชน ในการเรียกร้องให้  คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ  (สปท.)   ถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากการพิจารณาที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีเงื่อนไข  ขณะที่ปมขัดแย้งดังกล่าวถุกนำไปเคลื่อนไหวทางการเมือง ในหลายระดับทั้งจากฟากฝั่งสื่อที่มีทัศคติตรงข้ามรัฐบาลคสช.และพรรคการเมืองอย่าง “เพื่อไทย”  และ “ประชาธิปัตย์”   ???

ขณะที่ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้า คสช.   ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นนี้ ว่า  “"ผมยังไม่เห็นด้วย    ถ้าจะเห็นด้วยก็ต้องฟังประชาชนก่อนว่าเขาว่ากันอย่างไร สื่อว่าอย่างไร แต่สิ่งที่ผมเห็นเป็นปัญหาคือ    เราเคยมอบความรับผิดชอบให้สมาคมสื่อฯ ไปแล้ว แต่พวกท่านก็ยอมรับเองว่าท่านก็ทำไม่ได้ทั้งหมด  พวกท่านก็ต้องรับตรงนี้ 

 

 

ถึงเวลาต้องปฏิรูป..ไม่มีข้อยกเว้นสื่อ!! อ่านชัดๆจุดยืน"สนธิญาณ"ทำไมเห็นด้วยควรถอนพ.ร.บ.สื่อฯ เหตุผลสุดต่างไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด!?!

 

 

ถ้าทำได้กันทั้งหมดก็คงไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นอยู่แบบเดิมก็ได้ แต่วันรี้มันไม่ได้ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็หาคนรับผิดชอบไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้ ทุกคนต้องยอมรับ ผมยอมรับท่าน ๆ ก็ยอมรับผมเหมือนกัน ในเมื่อมันมีปัญหาอยู่ก็ต้องทำให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน องค์กรประกอบด้วยใครบ้างก็ต้องยอมรับกัน ไม่ใช่จะมัวมาเกรงรัฐบาลมาปิดกั้นสื่อ มันไม่ใช่จะไปปิดกั้นทำไม ถ้าไม่มีสื่อแล้วผมจะทำงานได้หรือไม่ เพราะสื่อจะเป็นผู้ขยายความเข้าใจให้กับผมอะไรไม่ดีสื่อก็เตือนมา ผมก็พร้อมตรวจสอบ"

ขณะเดียวกันในเพจเฟซบุ๊กของ “สนธิญาณ  ชื่นฤทัยในธรรม”ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

 

 

ถึงเวลาต้องปฏิรูป..ไม่มีข้อยกเว้นสื่อ!! อ่านชัดๆจุดยืน"สนธิญาณ"ทำไมเห็นด้วยควรถอนพ.ร.บ.สื่อฯ เหตุผลสุดต่างไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด!?!

 

 

“จุดยืน...สนธิญาณ...พ.ร.บ.สื่อฯ

๑.เห็นด้วย"จดทะเบียนสื่อ"เพราะ ต้องรู้ว่าใครมีอาชีพทำสื่อสารมวลชนและใครทำธุรกิจสื่อสารมวลชน ทุกวันนี้มี"สื่อปลอม"ทั้งในแง่ตัว"บุคคล"และในแง่"องค์กร" อย่างมากมาย เพราะมีทั้งตั้งขึ้นมาเพื่อ สนับสนุน"พรรคการเมือง" หรือ"องค์กรมวลชน"ที่สนับสนุนพรรคการเมืองโดยไม่เคยแยกถูกผิด!!!มีแต่พรรคการเมืองที่ตัวเองสนับสนุนหรือองค์กรที่ตัวเองสนับสนุนเท่านั้นที่"ทำอะไรก็ถูก"ทีคนอื่นทำ"ผิดหมด"!!!! แล้วก็ทำการปลุกเร้ามอมเมาผู้คนด้วยข้อมูลข้างเดียวจนประเทศชาติเกิดความแตกแยกและเกิดปัญหาขึ้น!!!
หรือตั้งขึ้นมาเพื่อหาเงินอย่างเดียว!!!!

 

๒.ต้องมี"สภาวิชาชีพสื่อ"ที่มาจาก"การเลือกตั้ง"อย่างกว้างขวางจาก"สื่อที่ทำการจดทะเบียน"ทั้งตัว"บุคคล"และ"องค์กร" โดย"สภาวิชาชีพ"จะต้อง"ไม่มีภาครัฐ"เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเด็ดขาด!!!! เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าจะขอ"ตัวแทนสื่อ"เข้าไปอยู่ใน"คณะกรรมการ"ต่างๆของภาครัฐ"โดยตำแหน่ง"ด้วยเช่น "กตร."หรือคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เพื่อปกป้องประชาชน ก็ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกันคือให้เกิดความโปร่งใสและเกิดการประสานงานที่ดีจะได้หรือไม่? ถ้าภาครัฐเห็นด้วยที่จะให้สื่อเข้าไปก็ไม่แปลกอะไรที่ภาครัฐจะเข้ามาใน"สภาวิชาชีพสื่อ"ได้


ส่วนข้อเท็จจริงทาง"ด้านสื่อ"ที่ควรยอมรับคือ"ตัวแทนองค์กรสื่อ"หรือ"สภาวิชาชีพต่างๆในปัจจุบันนั้น ไม่ว่าจะเป็น"หนังสือพิมพ์" "วิทยุ"หรือ "โทรทัศน์"..."ไม่ได้เป็นตัวแทนของสื่อจริงๆ"...เป็นเพียงองค์กรของ"คนกลุ่มเดียว"ที่เคลื่อนไหวกันอยู่ในวงแคบๆ แทบจะนับตัวคนได้ แล้วใช้ฐานะดังกล่าวนั้นอวดเบ่ง วางก้าม คุยโต กับภาครัฐหน่วยงานราชการหรือกับบุคคลภายนอก!!!!


แต่กับพวกตัวเอง"ไม่มีน้ำยา"ที่จะทำอะไรได้ ขนาดมี"สื่อทุจริต"ขี้โกง ศาลลงโทษพิพากษาแล้ว ยังได้แต่ชะเง้อคอมองทั้งตัวบุคคลที่ศาลพิพากษาและองค์กรที่ตัวบุคคลนั้นทำงานอยู่ก็"ไม่สามารถ"ไป "บังคับลงโทษ" อะไรได้ ต้องอาศัยมาตรการทางสังคมโน้น"คนทำผิด"และองค์กรดังกล่าวถึงยอมถอยไปบ้าง!!! ไม่ต้องนับกรณีอื่นๆอีกมากมายที่"องค์กรสื่อ"ในปัจจุบัน"ไม่มีน้ำยา"จะไปดำเนินการอะไรได้เพราะไม่มีบทลงโทษนั่นเอง


ดังนั้น"การจดทะเบียน"จึงจำเป็นเพื่อจะทำให้ได้"มีสิทธิ์"ใน"การเลือกตั้ง"สภาวิชาชีพสื่อ!!!! ไม่ใช่ไปต่อต้าน"ไม่จดทะเบียน"แล้วก็มั่วๆกันอยู่ในแวดวงไม่กี่คน!!! เมื่อ"การเลือกตั้ง"เป็นไปอย่างกว้างขวาง มีการวางกฎระเบียบอย่างรัดกุม ให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่าง"บริสุทธิ์ยุติธรรม"(ถ้าเลือกตั้งกันเองยังทำให้ยุติธรรมไม่ได้จะมาอวดอ้างถึงความวิเศษวิโสของอาชีพตนเองว่ามีจริยธรรมมีความรับผิดชอบเหนือกว่าอาชีพอื่นได้อย่างไร) ดังนั้น"บทลงโทษ"จึงต้องมี เพื่อให้"ยักษ์มีกระบอง"


๓.สื่อใน"นิวมีเดีย"วันนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและพลิกแพลงเป็นรูปแบบต่างๆ อย่างเหลือคณานับ จะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดลึกซึ้งเพื่อจะต้องทำให้อยู่ในกรอบของ"กฎหมาย"และ"จริยธรรม" รวมทั้งจะต้องมีมาตรการ"ส่งเสริม"กระบวนการแห่งความรู้ให้กับ"ประชาชน"เพื่อจะทำให้เกิด"สื่อภาคประชาชน"อย่างกว้างขวาง เพื่อทำหน้าที่รายงานข่าวข้อเท็จจริงอันเกี่ยวข้องกับพื้นที่ ที่ตัวเองอยู่หรือวิชาชีพที่ตัวเองเกี่ยวข้องเพราะมีความเข้าใจเบื้องหน้าเบื้องหลังและความเป็นมา ของข่าวสาร นั้นๆอย่างลึกซึ้ง อย่างที่"สื่อโดยอาชีพ"ไม่สามารถทำได้!!!!!

 

ดังนั้น พ.ร.บ.สื่อ ฯ ฉบับนี้จึงควรถอนออกมาเสียก่อนเพราะ"ผู้ที่ทำหน้าที่ร่าง"ไม่เคยมีความเข้าใจเรื่องสื่อเลย ที่ร่างขึ้นมาก็เพื่อ"เอาใจผู้ที่มีอำนาจรัฐ"อยู่ในขณะนี้เท่านั้น!!!!แต่ถอน!!!!ออกมาแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกหายไป ยังจะต้องผลักดันให้เกิด ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ให้ได้ โดยมีกรอบเบื้องต้น ดังได้เสนอไปแล้ว

 

เสนอให้ปฏิรูปคนอื่นเยอะแล้วสื่อก็ถึงเวลาปฏิรูปตัวเองเสียบ้าง!!!

"สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม"
๓๐ เมษายน ๒๕๖๐