ข้อสงสัยของกลุ่มผู้เข้าสอบแข่งขันระบุว่า เริ่มจากไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบ สวมนาฬิกาข้อมือเข้าสนามสอบ แต่ภายในห้องสอบกลับไม่มีนาฬิกากลางให้ดู จึงคำนวณเวลาในการทำข้อสอบไม่ได้ ทำให้ทำข้อสอบไม่ทันเวลา หน่วยประชาสัมพันธ์กลาง เสียงตามสายประกาศให้ทราบ เมื่อเหลือเวลา 15 นาที หรืออีก 5 นาทีก่อนหมดเวลา หลังประกาศได้ไม่นาน มีกรรมการคุมสอบบางห้อง รีบเดินมาเก็บข้อสอบ โดยไม่ให้โอกาสผู้เข้าสอบได้ทำข้อสอบต่อหรือทบทวน จนถึงหมดเวลาจริงๆ แต่ผู้เข้าสอบไม่กล้าทักท้วง ต้องยอมให้เก็บกระดาษคำตอบไป บางคนส่งแค่กระดาษเปล่า อีกประเด็น ข้อสอบมีจำนวนถึง 5 ตัวเลือก ต่างจากสนามสอบอื่น ที่มีเพียง 4 ตัวเลือก แต่ให้เวลาในการทำข้อสอบเท่ากับสนามสอบทั่วไปทำให้ผู้เข้าสอบทำข้อสอบไม่ทัน หรือมีข้อสอบบางข้อมีการตั้งคำถามผิด และไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง บางข้อมีตัวเลือกซ้ำซ้อน และเลขชุดข้อสอบไม่ตรงกับผู้เข้าสอบ มีข้อสอบบางชุดหายไป กระดาษคำตอบก็ไม่ได้มาตรฐาน ทราบภายหลังว่า จังหวัดนครพนมจัดทำขึ้นเอง ไม่ใช่จากเจ้าหน้าที่จัดทำข้อสอบจาก มรภ.ชัยภูมิ นอกจากนี้กระดาษคำตอบไม่มีแถบบาร์โค๊ต ใช้เครื่องตรวจไม่ได้ ฯลฯ เมื่อมีการประกาศผลสอบผู้ผ่านเกณฑ์ออกมา มีเพียง 39 คน คิดเป็นร้อยละ 1.05 เปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นที่มีการสอบครูผู้ช่วย จำนวน 65 จังหวัด นครพนมอยู่อันดับบ๊วยสุด ทำให้กลุ่มผู้เข้าสอบแข่งขัน เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในระดับมาตรฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 (นครพนม) จึงรวมตัวกันเข้าพบ นายเพิ่มพูน พงษ์พวงเพชร ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 (นครพนม) ที่ห้องประชุมชั้นสามของสำนักงานเขตฯ ก็โยนลูกให้ไปถาม มรภ.ชัยภูมิ ที่ตนเองจ้างออกข้อสอบ เป็นเงินจำนวน 870,000 บาท หลังจากไม่ได้คำตอบจาก ผอ.ฯ กลุ่มตัวแทนจึงเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ของความเป็นธรรมต่อ ผวจ.นครพนม ผ่านศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอให้ทางจังหวัดได้ ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล/กันต์ ธนาอัครชล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครพนม