อำนาจ “พญาครุฑ” ความศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลแด่ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สยบอาถรรพณ์บันดาลความรุ่งเรือง #พาหนะศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเทพ

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://www.tnews.co.th

จากกระแสเรื่อง “”พญาครุฑ” ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นประติมากรรม ประดับตกแต่งพระเมรุมาศ ทางทีมข่าวปัญญาญาณ ทีนิวส์ เห็นว่าเรื่องราวอันเป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับครุฑ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพระมหากษัตริย์นั้น มีที่มาที่ไปน่าสนใจอยู่ไม่น้อย หลายๆ คนมีความศรัทธาและได้รับรู้เรื่องราวของพญานาคกันมามาก ทว่าเรื่องของ “พญาครุฑ” กลับมีผู้พูดถึงน้อยกว่า

วันนี้จึงได้นำเรื่องราวจากเพจ “เรารักพระพุทธเจ้าหลวง”  ซึ่งได้เรียบเรียงให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องครุฑไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีเนื้อหาระบุว่า...

อำนาจ “พญาครุฑ” ความศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลแด่ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สยบอาถรรพณ์บันดาลความรุ่งเรือง #พาหนะศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเทพ

(พญาครุฑ ประติมากรรมที่กรมศิลปากร นำมาตกแต่งพระเมรุมาศ)

"เกร็ดความรู้"
บารมี "องค์พญาครุฑ" สู่ความเจริญรุ่งเรืองแห่งชีวิต

ตำนานพญาครุฑ ในตำนานเมืองฟ้าป่าหิมพานต์นั้นมีเรื่องราวของสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายหลายชนิด เช่น ราชสีห์ คชสีห์ อันมีลำตัวเป็น สิงห์แต่มีศีรษะเป็นช้าง กินรี กินนร และสัตว์แปลก ๆ อีกมากมาย ในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้นมีสองอย่างที่นับว่าเป็นเทพเดรัจฉานมีฤทธิ์มากคือ หนึ่งเป็นพญานาคราชจ้าวแห่งบาดาล และอีกหนึ่งคือพญาครุฑจ้าวแห่งเวหา

 

 

นาคและครุฑต่างเป็นสัตว์ที่คู่กันตามตำนาน มีเรื่องราวเล่ากันว่าสัตว์กายสิทธิ์ทั้งสองนี้มีบิดาเดี่ยวกันคือมหาฤาษีกัสยปะเทพบิดรแต่คนละแม่โดยพญาครุฑนั้นมีมารดาเป็นภรรยาหลวง ส่วนนาคนั้นมีแม่เป็นภรรยาคนรอง นางทั้งสองนี้ไม่ถูกกันมีเรื่องกันตลอดจนในที่สุดความผิดใจกันนี้ลามไปถึงลูกของตนด้วย จึงเป็นเหตุให้นาคและครุฑไม่ถูกกันในเวลาต่อมา

พญานาคนั้นมีวิมานอันเป็นทิพย์อยู่ในบาดาล ส่วนครุฑก็มีวิมานทิพย์อยู่ที่เชิงเขาไกรลาส

ทางฮินดูเขานับถือครุฑว่าเป็นเทพเจ้าสำคัญพระองค์หนึ่ง แม้ในทางไทยเราเอง ทางไสยศาสตร์ก็ให้ความนับถือเกี่ยวกับครุฑนี้มาก ดูอย่างตราแผ่นดินเองก็มีรูปลักษณะเป็นครุฑ เหตุนี้จึงน่าสนใจว่าครุฑนั้นคงมีอานุภาพบางอย่างและน่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในอีกมิติหนึ่งเช่นเดียวกันกับพญานาค ถ้าท่านเชื่อว่าพญานาคมีจริง พญาครุฑก็ย่อมมีจริงเช่นกัน

 

เราสามารถพบเห็นรูปครุฑได้จากเอกสารต่าง ๆ ของทางราชการ และนับว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารศักดิ์สิทธิ์ หากราชการผู้ที่ทำหน้าที่ผู้ใดมีความสุจริตจงรักภักดีต่อแผ่นดิน องค์พระมหากษัตริย์ และหน้าที่ของตน องค์พญาครุฑก็จะส่งพลังปกป้องให้มีความสุข ความเจริญในหน้าที่

อำนาจ “พญาครุฑ” ความศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลแด่ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สยบอาถรรพณ์บันดาลความรุ่งเรือง #พาหนะศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเทพ

 

นอกจากนี้ยังมีเกร็ดความเชื่อว่าหากที่ใดมีอาถรรพ์แรง ท่านให้นำเอาตราครุฑไปติดจะทำให้อาถรรพ์นั้นเสื่อมสลายไปในที่สุด ตราครุฑล้างอาถรรพ์ได้จึงเป็นที่เชื่อถือกันมาตลอดและได้รับความเคารพบูชาว่าเป็นของสูง เสมือนหนึ่งตัวแทนแห่งองค์พระประมุข ผู้ใดมีสัญลักษณ์ครุฑ รูปครุฑบูชาไว้ย่อมได้อานิสงส์มาก อาทิ มีความเจริญแก่ตัวเองและครอบครัวเป็นต้น

 

ดังนี้แล้วครุฑจึงเป็นของสูงที่เราควรรู้ควรบูชาอย่างหนึ่ง คนโบราณมีความเชื่อสืบกันมาว่า ครุฑนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง มหาอำนาจ ในสมัยก่อนที่ไหนว่ากันว่าผีแรง ผีเฮี้ยน เอาตราพญาครุฑไปติดไว้ความอาถรรพ์ของสถานที่นั้น ๆ ก็จะหายไปในทันที

 

อำนาจพญาครุฑ
สิทธิอำนาจพญาครุฑ สัตว์กายสิทธิ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้มีอายุยืนเสมือนว่าเป็นอมตะนั้น นับเป็นเรื่องลี้ลับที่ผู้รู้พยายามค้นคว้า และเสาะหาที่มาแห่งพลังอำนาจดังกล่าว จนเกิดการสร้างเครื่องรางต่าง ๆ ขึ้น อำนาจพญาครุฑสามารถจำแนกได้ถึง ๘ ประการ โดยนับเอาอำนาจหลัก ๆ ได้ดังนี้คือ

๑.เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
๒.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
๓.เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
๔.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
๕.เป็นเมตตามหานิยม
๖.นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
๗.ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
๘.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด

อำนาจ “พญาครุฑ” ความศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลแด่ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สยบอาถรรพณ์บันดาลความรุ่งเรือง #พาหนะศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเทพ

 

(ติดตามอ่านบทความนี้เพิ่มเต็มได้ที่ เพจ: เรารักสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง

https://www.facebook.com/WeLoveKingChulalongkornChakriDynasty )