เกาให้ถูกจุด!! "วิทยา แก้วภราดัย" อดีตร มว.สาธารณสุข จี้ปฏิรูประบบพยาบาลตำรวจและครูไปพร้อมกัน แนะเร่งกันตำแหน่งให้พยาบาลบรรจุทันที

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่ 13 พ.ค. 2560  ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรัว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตสมาชิก สปท.ได้เปิดถึงปัญหาของการเรียกร้องการบรรจุเข้ารับราชการของพยาบาลทั่วประเทศว่า ปัญหาบุคลากรการพยาบาลเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเคยนำเรื่องนี้เข้าสู่ ครม.ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เพื่อขอกันตำแหน่งบุคลากรจากกระทรวงต่างๆ เพื่อมาเป็นตำแหน่งให้บุคลากรการพยาบาลช่วงนั้นที่ไม่ได้บรรจุราว 1.6 หมื่นคน และหลังๆ ได้บรรจุไปบ้างแล้วแต่ยังค้างอยู่อีกกว่า 1 หมื่นอัตรา และหากใช้อัตราปกติที่ทดแทนคนเกษียณจะต้องใช้เวลาอีกราว 10 ปี นายวิทยาฯ ระบุอีกว่า รัฐบาลควรทำที่สุดในขณะนี้คือ ดูโครงสร้างระบบราชการทั้งหมด ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการพยาบาลสูง สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนที่ใช้บริการมากที่สุดคือผู้สูงอายุงานเหล่านี้ และกำลังเป็นปัญหากับโครงสร้างระบบราชการไทยทั้งหมด เนื่องจากกำลังจำกัดอัตรากำลังคนภาครัฐ และไปจำกัดผู้ปฏิบัติงาน ขณะที่ตำรวจระดับปฏิบัติการเริ่มน้อยลง ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาโตมากขึ้นมีจำนวนมากขึ้น เช่นเดียวกับครูบุคลากรทางการศึกษามีไม่เพียงพอ ครูโรงเรียนชนบทมีไม่พอ โรงเรียนที่มีนักเรียน 30 คน เรามีผู้บริหารครบและไม่ต้องสอนใคร เพียงแต่ทำหน้าที่บริหาร

                     เกาให้ถูกจุด!! "วิทยา แก้วภราดัย" อดีตร มว.สาธารณสุข จี้ปฏิรูประบบพยาบาลตำรวจและครูไปพร้อมกัน แนะเร่งกันตำแหน่งให้พยาบาลบรรจุทันที

ในการทำหน้าที่ของพยาบาลเป็นหน้าที่ต้องปฏิบัติการคล้ายตำรวจ ทหารต้องเร่งชดเชยขวัญกำลังใจและไม่มีทางอื่น จำเป็นต้องใช้มาตรการในการกันตำแหน่งทันทีอัตรากำลังคนทุกกระทรวงที่กันไว้ 2-3 เปอร์เซ็นจะต้องกันมาให้กระทรวงสาธารณสุขทันทีเป็นทางออกที่ดีที่สุด อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าว นายวิทยาฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่เสนอวาระกำนันผู้ใหญ่บ้านให้เหลือ 5 ปีเลือกตั้งใหม่นั้นว่า มีการส่งเรื่องถึงทุกส่วนแล้ว หลังจากนั้นตนได้ลาออกจาก สปท.ซึ่งได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีว่าประชาชนเขาต้องการอย่างนั้น และอยากให้นายกฯ หยุดฟังราชการสักหน่อย เพราะหากฟังจากแล้วท่านจะไม่รู้ความจริง และคนที่ค้านเรื่องนี้มี 2 พวก คือกำนัน และกระทรวงมหาดไทย ต้องฟังประชาชนทั่วประเทศเพื่อหาทางออกที่ดีแก่ประชาชน นอกจากนั้นยืนดีที่รัฐบาลเอาจริงกับเรื่องทุจริตคอรัปชั่น อยากได้เดินหน้าปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ล้างของเก่า แต่ของใหม่เกิดขึ้นทุกวัน นักการเมืองระดับชาติตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่นักการเมืองท้องถิ่นยังมีอยู่ ถามว่าทุจริตหรือไม่ เป็นข้อที่ประชาชนกลัวมากที่สุดในนักการเมืองท้องถิ่นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง สิ่งที่รัฐบาลต้องทำอย่างจริงจังการปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นที่เหลืออยู่

                     เกาให้ถูกจุด!! "วิทยา แก้วภราดัย" อดีตร มว.สาธารณสุข จี้ปฏิรูประบบพยาบาลตำรวจและครูไปพร้อมกัน แนะเร่งกันตำแหน่งให้พยาบาลบรรจุทันที

อยากเสนอนายกฯ คือให้เอามาตรฐานการตรวจสอบนักการเมือง มาตรวจสอบระบบราชการด้วย เราถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า 2 มาตรฐาน กระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้หรือไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมทั้งหมดเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินแบบนักการเมือง ตำรวจ อัยการ ศาล รวมทั้งองค์กรอิสระทั้งหมด เปิดเผยทรัพย์สินทั้งหมด ถ้าเปิดเผยได้อย่างนี้ประชาชนจะได้ร่วมตรวจสอบและเป็นเจ้าของระบบราชการจริงๆ ถ้าไม่เปิดเผยจะเป็นข้อครหาว่าวันที่ไม่มีนักการเมืองแต่ยังมีการทุจริตคอรัปชั่นระบาดอยู่” ประการสุดท้ายอยากให้การเลือกตั้ง สส.และ สว.ที่จะมาถึงเป็นการเลือกตั้งมีคุณภาพ ไม่เสียของ ผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องเลือกตั้งไม่ได้อยู่ใน สปท, ไม่อยู่ใน สนช.และไม่ใช่ทหาร เพราะฉะนั้นถ้าจะเปิดการเลือกตั้ง สส.และ สว.พร้อมกัน สุ่มเสี่ยงต่อการกลับมาอยู่ในวงจรอุบาทเหมือนเดิม รัฐบาลจึงจำเป็นต้องซ้อมการเลือกตั้ง ลองประกาศเลือกตั้งท้องถิ่นบางพื้นที่ดู เพราะบางแห่งหมดวาระนานมาก แล้วยังมีการทุจริตไม่เลิก “ส่งทหารและบุคลาการลงไปดูงานการเลือกตั้งท้องถิ่นและหาข้อสรุปนำมาหามาตรการในการเลือกตั้ง สส.และ สว.ถ้าทำได้เราจะไม่เสียของ ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อเสนอแนะในการหารือ ทำตามที่นายกฯ ร้องขอ เนื่องจากนายกฯ เป็นผู้ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจที่สุดในขณะนี้” นายวิทยาฯ กล่าวในที่สุด

                       เกาให้ถูกจุด!! "วิทยา แก้วภราดัย" อดีตร มว.สาธารณสุข จี้ปฏิรูประบบพยาบาลตำรวจและครูไปพร้อมกัน แนะเร่งกันตำแหน่งให้พยาบาลบรรจุทันที

ภาพ/ข่าว ธีรศักดิ์ อักษรกูล   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าสทีนิวส์   จ.นครศรีธรรมราช