- 16 พ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีนางสาวกรรณิกา ธนิกกุล อายุ 50 ปี แม่ค้าขายหอยทอดหน้าวัดดอนมโนรา ตำบลดอนมโนรา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับหมายเรียกจากศาลแพ่งธนบุรี คดีฐานความผิดสัญญาซื้อขายเรียกใช้หนี้มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท วันนี้สำนักงานเลขานุการและงานประชาสัมพันธ์ ศาลแพ่งธนบุรี ได้ออกข่าวศาลแพ่งธนบุรี ว่าตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อว่า “แม้ค้าขายหอยทอดโดนฟ้อง 14 ล้าน”
โดยนางสาวกรรณิกา ธนิกกุล อายุ 50 ปี ชาวตำบลขุนพิทักษ์ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี แม่ค้าขายหอยทอดเพิงร้านค้าบริเวณริมคลองวัดดอนมโนรา ตำบลดอนมะโนรา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ผู้ถูกฟ้องที่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องจากศาล ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับโจทก์และคดีนัดวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ที่ศาลแพ่งธนบุรี นั้น
ศาลแพ่งธนบุรี ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ เมื่อวันที่ 11 เมษายน2560 โจทย์ยื่นฟ้องนางกรรณิกา ธนิกกุล เป็นจำเลยที่ 3 ที่ศาลแพ่งธนบุรี จากการตรวจสอบในเวลาต่อมาพบว่ามีบุคคลชื่อ กรรณิกา ธนิกกุล ซ้ำกันทั้งชื่อและนามสกุล จำนวน 2 คน อีกบุคคลคือนางกรรณิกา ธนิกกุล อายุ 42ปี มีภูมิลำเนาอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลจอมปลวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นบุคคลที่โจทย์ประสงค์ยื่นฟ้องในคดีนี้ แต่โจทย์ได้ข้อมูลคลาดเคลื่อนมาจากสำนักงานเขตบางขุนเทียนจึงทำให้ฟ้องผิดตัว เป็นการฟ้องบุคคลคนละคนกัน
หลักจากที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปแล้ว สำนักงานเขตบางขุนเทียนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง พบว่าในการรับรองรายการทะเบียนราษฎรจากฐานข้อมูลการทะเบียน ไม่พบรายการซ้ำซ้อนในวันที่ทนายโจทย์มาขอรับรองรายการทะเบียนราษฎรและไม่ได้ตรวจสอบให้ถูกต้องอีกครั้ง จึงเป็นเหตุให้ทนายโจทก์ฟ้องผิดตัว ทั้งนี้นางสาวกรรณิกา ธนิกกุล ผู้ถูกฟ้องผิดตัวได้เจรจาไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจกับตัวแทนโจทย์ผ่านอัยการจังหวัดราชบุรีเป็นที่พอใจโดยตกลงว่าโจทย์จะขอถอนฟ้องผู้ถูกฟ้งผิดตัวภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2560
ในวันนี้ (16 พฤษภาคม2560) ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องศาลแพ่งธนบุรี และศาลได้คำสั่งให้โจทก์ถอนฟ้องคดีนี้รวมทั้งได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากระบบความแล้ว
ซึ่งเมื่อนางสาวกรรณิกา ทราบข่าวก็มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 หลายใบ เพื่อนๆแม่ค้าใกล้เคียงต่างรู้สึกยินดีกับข่าวนี้
นางสาวกรรณิกา กล่าวว่า หลังถูกสั่งฟ้องเงิน 14 ล้าน ตนเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน แต่เมื่อทราบข่าวศาลแพ่งธนบุรี ว่าวันนี้ศาลได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากระบบความแล้ว จึงรู้สึกดีใจมาก ที่ไม่ต้องรับภาระหนี้ถึง 14 ล้านบาท และโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากบ่าที่แบกไว้ อย่างไรก็ตามตนขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนที่เกิดผิดพลาดแบบนี้ เพราะชาวบ้านหาเช้ากินค่ำที่ไม่รู้เรื่องด้วยจะต้องมาเดือดร้อน ขอให้กรณีของตนเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งจากนี้ไปตนจะปรึกษาพี่น้องอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ข่าว/ภาพ นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สมุทรสงคราม