ยิ่งใกล้วัน ยิ่งนอนหลับไม่เต็มตา!!ชาวบ้านริมชายฝั่ง และ ผู้เลี้ยงปลากระชังริมเล ยังผวา กม.ใหม่ หวั่นกรมเจ้าท่าจับปรับนับแสนวอนคสช.ช่วยด่วน!!

วันที่ 21 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบูรณ์ คำแหง กลุ่มเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาคประชาชนออกชี้แจ้งเรื่องกฎหมายของกรมเจ้าท่า ซึ่งกฎหมายนี้เป็นกฎหมายหมายเกี่ยวกับพระราชบัญติ (พรบ. )ว่าด้วยกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย ( ฉบับที่ 17 ) พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 แก่ประชาชนที่อาศัยที่ปลูกสร้างบ้านเรือนไว้บริเวณพื้นที่ชายหาด ริมคลอง ซึ่งถูกผลกระทบด้านกฎหมายโดยตรง ที่อาหารประชุมแหล่งท่องเที่ยวบากันเคย หมู่ที่ 3 ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

ล่าสุดทำให้ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย และชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งตัวแทนชาวบ้านในจุดต่างๆของจังหวัดสตูลที่ได้รับผลกระทบมาร่วมรับฟัง หลังไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย ( ฉบับที่ 17 ) พ.ศ. 2560 จนล่าสุดเกิดความเครียด และกลายเป็นผู้บุกรุกไปในขณะนี้ พร้อมกับมีการร่อนหนังสือแบบแจ้งการฝ่าฝืนการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย หากไม่ไปแจ้งจะโทษปรับและถูกจับทันที

นายสมบูรณ์ คำแหง กลุ่มเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวว่า ประชาชนชายฝั่งที่ปลูกบ้าน อาคารในพื้นที่ชายทะเลและทำอาคารยื่นไปในทะเล รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพทำกระชังปลา รวมทั้งที่อาศัยอยู่มานานสมัยปูย่าตายาย แต่ต้องกลายเป็นคนผิดและผู้บุกรุกไปทันทีหลังกฎหมายของกรมเจ้าท่าฉบับนี้ออกมา บางครอบครัวเกิดความเครียดและกลัวว่ามีหนังสือแจ้งให้ไปลงชื่อแต่มีการพาดหัวหนังสือว่าเป็นผู้บุกรุก จึงต้องการข้อเท็จจริงและข้อข้องใจโดยกฎหมาย จึงเชิญผมมาอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งชาวบ้านจะไปแจ้งความประสงค์ตามที่ได้รับหนังสือแบบแจ้งฝ่าฝืนนั่นหรือไม่อยู่ที่ความประสงค์ ซึ่งผมมิได้จะขัดอำนาจกฎหมายแต่ทางรัฐบาลเองก็ควรชี้แจ้งข้อกฎหมายอย่างชัดเจน เพราะส่วนใหญ่ภาพรวมประชาชนมองกฎหมายนี้รังแกประชาชน

แต่อย่างไรฝากถึงกรมเจ้าท่าหรือรัฐบาลว่า ควรคิดพิจรณาให้ดีเพราะคนชายฝั่งที่ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนมิได้ไปทำลายหรือไปขวางทางน้ำแต่อย่างใด เพราะวิถีชุมชนริมเล ริมฝั่งเขามีวิถีชีวิตมีมานาน และอย่างที่บอกวันนี้ผมมาอธิบายเรื่องข้อกฎหมายแก่ชาวบ้านว่า คุณจะได้ผลกระทบอะไร เดือดร้อนอย่างไร เพราะเราประกาศชัดเจนว่า รัฐบาลออกกฎหมายที่ไม่เข้าใจ โดย 1 เราต้องชะลอกฎหมายนี้ 2 ต้องแยกแยะการเป็นอยู่ โดนรัฐบาลต้องแยกแยะการความเป็นอยู่ระหว่างริมคลอง ริมเลเป็นอย่างไร 3 เราพร้อมที่จะเสียภาษีแต่ไม่ควรแพงเกินไป โดยกฎหมาย คิดเป็นในอัตตราตารางเมตรละ 500 บาทถึง 10,000 เมตร ซึ่งประชาชนที่อยู่มานานต้องกลายเป็นผู้เช่าต่อไปจนสู่ลูกหลาน

นายอัมรัญ ฮะยีบิลัง อายุ 46 ปีผู้เลี้ยงปลากระชังมานาน 3 ปี กล่าวว่า ต้องการความแน่ชัดว่าทำไมทางกรมเจ้าท่าถึงพยามที่จะใช้กฎหมายเพราะที่ผ่านมาไม่เคยบังคับใช้ พร้อมกับการให้พวกเราแสดงเจตจำนงค์เรื่องว่าเราบุกรุกทั้งๆที่อาชีพและเลี้ยงปลากระชังก็เป็น หนึ่งนโยบายรัฐที่ให้ มาตนเองก็จะไปร่วมยื่นหนังสือทางจังหวัดสตูลร่วมกับพี่น้องชะลอการใช้กฎหมายในครั้งนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ในส่วนประชาชนคนริมเลที่มีบ้านอาคาร และการท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ปลูกสร้างที่พัก รีสอทร์ชุมชน และการเลี้ยงปลากระชังทั้งหมดในพื้นที่ 7 อำเภอนัดรวมตัวเพื่อเดินทางไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลในวันพรุ่งนี้ และมิได้ไปก่อม๊อบแต่ต้องการไปยื่นหนังสือกับทางจังหวัดฝากไปยังรัฐบาลให้ชะลอขอกฎหมายดังกล่าวทันที

ข่าว//ภาพ เอนก  ขันทสิกรรม  นนทพัทธ์ จันทรกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จังหวัดสตูล