พฤติกรรมเยี่ยง “สัตว์ป่า” !!ระเบิดในโรงพยาบาล!! แม้แต่ในสงคราม..คนละเชื้อชาติยังไม่ทำกันเลย..เลวร้ายเกินคำบรรยาย!!??

สืบเนืองจากเหตุระเบิดภายใน ร.พ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อช่วงสายของวันที่22 พ.ค. ที่มา ด้านเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและอีโอดี ตรวจพบว่าระเบิดเป็นระเบิดตั้งเวลาประกอบจากท่อ PVC ถูกนำมาใส่ในแจกันสีเขียว โดยมีดอกไม้ลักษณะคล้ายของปลอมทำจากผ้าสีส้มอยู่ภายในแจกัน ก่อนถูกนำมาวางทิ้งไว้บนเก้าอี้ภายในห้อง "วงษ์สุวรรณ" ซึ่งเป็นห้องรับรองนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการเมื่อเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลฯ เป็นผลให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด  24 ราย และมีอาการสาหัส 3ราย

โดยในรอบปีนี้ได้เกิดเหตุการณ์วางระเบิดป่วนเมืองมาแล้วถึง  3 ครั้ง ทั้งหน้ากองสลากเก่า โรงละครแห่งชาติ และ รพ.พระมงกุฎเกล้า จากพยานหลักฐานพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากมีส่วนประกอบระเบิดชนิดเดียวกันทั้งหมด

 

พฤติกรรมเยี่ยง “สัตว์ป่า” !!ระเบิดในโรงพยาบาล!! แม้แต่ในสงคราม..คนละเชื้อชาติยังไม่ทำกันเลย..เลวร้ายเกินคำบรรยาย!!??

 

พฤติกรรมเยี่ยง “สัตว์ป่า” !!ระเบิดในโรงพยาบาล!! แม้แต่ในสงคราม..คนละเชื้อชาติยังไม่ทำกันเลย..เลวร้ายเกินคำบรรยาย!!??

ด้านพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมหน่วยความมั่นคง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการวางระเบิดของผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นโรงพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เข้ารับบริการเป็นผู้สูงอายุ ถือเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาและประสงค์ต่อชีวิต เพราะมีการใส่ตะปูจำนวนมาก

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุต้องการสร้างความปั่นป่วนในการบริหารงานของรัฐบาล แต่ไม่ดิสเครดิตรัฐบาล พร้อมสั่งเร่งรัดเฝ้าระวังพื้นที่สำคัญและสถานที่ราชการ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุ ยืนยันยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ

"เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ปกติเขาไม่ทำกันในโรงพยาบาล ในสงครามยังไม่ทำ สังคมต้องช่วยกันประณามและแจ้งเบาะแสเจ้าหน้าที่ ไม่เกี่ยวกับโอกาสครบรอบ 3 ปี คสช. แต่น่าจะสบโอกาส เพราะเป็นพื้นที่เปิดใครก็สามารถเข้าไปได้ ยากในการป้องกัน"

 

พฤติกรรมเยี่ยง “สัตว์ป่า” !!ระเบิดในโรงพยาบาล!! แม้แต่ในสงคราม..คนละเชื้อชาติยังไม่ทำกันเลย..เลวร้ายเกินคำบรรยาย!!??

ทั้งนี้ตามกฎกาชาดสากลแล้ว..โรงพยาบาลเป็นสถานที่ปลอดจากการก่อการร้าย คนสั่งการและก่อการนั้นต่ำช้าเลวทรามมาก.

กฏหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับสงคราม โดยกฎหมายสงครามทั่วไป ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศได้กล่าวถึงสิทธิในการทำสงคราม การประกาศสงคราม ผลทางกฎหมายสงคราม รวมทั้งหลักการสู้รบต่าง ๆ

หลักการสู้รบ
กฎหมายระว่างประเทศได้กำหนดหลักการกว้าง ๆ ในการทำสงคราม ทั้งในด้านสถานที่ ผู้ที่มีส่วน และวิธีการ รวมทั้งอาวุธที่ต้องห้าม ซึ่งการสู้รบ ให้โจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร ห้ามโจมตีฝ่ายพลเรือน ห้ามทำการโจมตีทั่วไป เพราะอาจจะโจมตีถูกบุคคลพลเรือน หรือเป้าหมายที่ไม่ใช่ทหารด้วย สำหรับสาธารณูปโภคโภคที่ใช้ร่วมกันระหว่างพลเรือนกับทหาร อย่างเช่น สะพาน หรือโรงไฟฟ้า ห้ามโจมตี เพราะมิใช่เป้าหมายทางทหารโดยเฉพาะ ห้ามโจมตีหมู่บ้านเปิดที่ไม่มีหน่วยทหารตั้งอยู่ และห้ามโจมตีโรงพยาบาล รถพยาบาล หรือเรือนพยาบาลด้วย
 

อย่างไรการรอบวางระเบิดในโรงพยาบาล ไม่ใช่เรื่องปกติ ขนาดในสงครามคนละชาติคนละภาษาเขายังไม่ทำกันเลย แต่ก็ไม่แน่นัก หากย้อนกลับไปดูเมื่อปี53  “คนเสื้อแดง” บุกเข้าไป อาละวาด และค้นดะ ถึงในโรงพยาบาลจุฬาฯ จนผู้คนสาปแช่งทั้งแผ่นดิน โดย “นายพายัพ ปั้นเกตุ” แกนนำได้พาคนเสื้อแดงกว่า 200 คน ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องทำการขนย้ายคนป่วยออกจากโรงพยาบาลจุฬาฯ เริ่มตั้งแต่ทารกแรกเกิดในตู้ ไปจนถึงผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ
       
       เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้คนป่วยที่รอคิวผ่าตัดมาเป็นเดือนๆ ต้องเลื่อน และต้องเสียโอกาสในการได้รับการรักษา บางรายเพิ่งได้รับการผ่าตัด ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์และพยาบาล ส่วนคนป่วยจำนวนไม่น้อยต้องถูกเคลื่อนย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่น อีกจำนวนหนึ่งเลือกกลับบ้าน และมีผู้ป่วยบางรายหยุดหายใจขณะเคลื่อนย้าย แม้แพทย์จะช่วยชีวิตไว้ได้ แต่อาการยังน่าเป็นห่วง และสิ่งที่หลายคนกังวลก็เกิดขึ้น เมื่อผู้ป่วยบางรายเสียชีวิต หลังจากเคลื่อนย้ายถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมง
       
       นอกจากนี้ ภาพการเคลื่อนย้ายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุกว่า 90 พรรษา ที่กำลังรักษาพระอาการประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ไปที่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อความปลอดภัย ก็สร้างความสลดหดหู่ใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ เนื่องจากการเคลื่อนย้ายมีสภาพไม่ต่างจากการหนีภัยสงคราม