กองบัญชาการกลางสหรัฐฯหรือเซนต์คอม แถลงยอมรับว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 กองทัพสหรัฐฯเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองโมซุล ของอิรัก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว กรณีกองบัญชาการกลางสหรัฐฯหรือเซนต์คอม แถลงยอมรับว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 กองทัพสหรัฐฯเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองโมซุล ของอิรัก ทำให้พลเรือนกว่า 105 ราย เสียชีวิต โดยให้เหตุผลว่าต้องการสังหารนักรบไอเอส แต่ระเบิดที่ทิ้งลงไป ได้จุดชนวนระเบิดซึ่งไอเอสลอบวางไว้จนเกิดความสูญเสียดังกล่าว

ที่ผ่านมานั้นสหรัฐฯ เพียงแต่แจ้งว่าอาจมีส่วนในการตายของพลเรือน แต่จะให้เหตุผลว่าไม่ได้ตั้งใจ หรือการกำหนดเป้าหมายนั้นผิดพลาด แต่ในกรณี ในเมืองโมซุล เมื่อวันที่
17
มีนาคม นั้น เกิดจากทหารของอิรัก ได้หลบหนีหน่วยแม่นปืนของ กลุ่มนักรบไอเอส หลบซ่อนตัวอยู่ในอาคาร และได้ขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติการในพื้นที่ กอทัพสหรัฐฯ จึงได้โจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดลงไปในบริเวณที่คาดว่ากลุ่มนักรบไอเอสอยู่ ทำให้เกิดการเสียชีวิตจำนวนมากขึ้น แต่กลับกลายว่าผู้ที่เสียชีวิตนั้นเป็นพลเรือน และทหารของอิรัก

 

ขณะที่ล่าสุด สหรัฐฯได้การเปิดฉากโจมตีทางอากาศ ในซีเรีย เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต กว่า 100 คน ในนั้นรวมถึงเด็ก ๆ และสมาชิกในครอบครัวของกลุ่มนักรบไอเอส ในเมืองอัล – มายาดิน ซึ่งเป็นเมืองที่จัดขึ้นโดยกลุ่มนักรบไอเอสที่อยู่ใกล้ เดเอชซอร์ ทางตะวันออกของประเทศซีเรีย

 

กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียของสหประชาชาติ กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการโดยเครื่องบินรบของรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่ทางด้านโฆษกของกองทัพสหรัฐฯในซีเรีย ให้ข้อมูลว่าทางสหรัฐฯ ได้เปิดปฎบัติการทางอากาศในเมืองอัล-มายาดิน สองวันต่อเนื่องคือวันที่ 25-26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการประเมินผลการปฏิบัติการดังกล่าว

 

กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียของสหประชาชาติ มีเด็กกว่า 40 คนเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว ทำให้อาคารในเมืองอัล-มายาดิน พังราบเป็นหน้ากลอง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเห็นเครื่องบินลาดตระเวนและเครื่องบินรบรอบเมือง ก่อนที่พวกเขาจะยิงขีปนาวุธโจมตีอาคารสองแห่งซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นอาคารที่พักอาศัย 4 ชั้นของของชาวซีเรียครอบครัวของกลุ่มนักรบไอเอส โดยปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืน ขณะที่ประชาชนกำลังพักผ่อนนั่นเอง