- 28 พ.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด Facebook : Deeps News
ถึงแม้ว่านาทีนี้จะยังไม่มีบทสรุปอย่างชัดเจนว่า กิจกรรมของเครือข่ายจุฬาฯ 100 ปี อันประกอบด้วยตัวแทนนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกคณะ ร่วมกับ เครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปปท.) และพสกนิกรผู้จงรักภักดี ในการเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกพร้อมรายนามผู้สนับสนุนจำนวน 4,791 คน ต่ออธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง เสนอแนวความคิดเพื่อการธำรงรักษาอัตลักษณ์และการกราบถวายบังคมอันเป็นจารีตประเพณีที่ดีงามของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะก่อเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างไรหรือไม่??
ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาที่เป็นคำตอบของ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ว่าที่ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะยังกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนในการเดินหน้าคัดค้านพิธีการหมอบกราบ ถวายบังคม พระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาล หรือแม้แต่ พระบรมรูปทรงม้า บริเวณลานพระราชวังดุสิต เหมือนเดิม ตามข้อมูลการให้สัมภาษณ์ผ่านเฟซบุ๊กแห่งหนึ่งว่า “ ตนพร้อมจะเป็นแบบอย่างและโมเดลที่ดี เพื่อให้สภานิสิตจุฬาเป็นแบบอย่างให้แก่สภาเยาวชนทั่วประเทศ เราจะต้องเป็นตัวของตัวเอง
โดยหลังวันที่ 1 มิ.ย. จะเริ่มปฏิรูปการรับน้อง ลดการใช้ความรุนแรงลง โดยรุ่นพี่ต้องไม่กดขี่รุ่นน้อง ส่วนกรณีประเพณีถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้า บริเวณลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ส่วนตัวเห็นว่าต้องเปิดพื้นที่ให้คนที่ไม่อยากถวายบังคมแบบหมอบคลาน เปิดพื้นที่ให้เขายืนเคารพก็ได้ โดยบางคณะยังบังคับกันอยู่ ... เราจะลงไปดูแล”
ขณะที่ล่าสุดใน เฟซบุ๊ก แฟนเพจ ของ พ.อ. วันชนะ สวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด ได้โพสต์ข้อความที่มีรายละเอียดเกี่ยวเนื่องกับความรู้สึกส่วนต่อการถวายความจงรักภักดี ต่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ดังรายละเอียด ต่อไปนี้ "ทหารต้องยึดมั่นในสายการบังคับบัญชาและแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีให้เห็นเป็นประจักษ์ รู้สึกภูมิใจเสมอ ที่ได้มีโอกาสถวายสักการะพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 องค์พระผู้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ด้วยการถวายบังคม ไม่ว่าวันเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปสู่โลกยุคใหม่ แต่วิถีและขนบประเพณีที่แสดงออกถึงความเป็นรากเหง้าตัวตนของเรา ไม่มีคำว่าล้าสมัย ใครที่ไม่เห็นคุณค่าก็ไม่เป็นไร บังคับใจใครไม่ได้ แต่เราจะยังคงสืบต่อการแสดงออกนี้ให้อยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยตลอดไป
#ฉันเกิดในรัชกาลที่9
#คนใจบอด