ถึงกับอึ้ง!! นายแพทย์ สสจ.พะเยาเตือน ปชช.กินเห็ดที่ไม่คุ้นเคยอาจเสียชีวิตได้ ใช้ข้าวสาร –ช้อนเงิน จุ่มตรวจบอกไม่ได้ 100 % (มีคลิป)

วันที่ 30 พ.ค. 2560 นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คือปี 2555-2559 จังหวัดพะเยา มีผู้ป่วยที่รับประทานเห็ดพิษจำนวน 142 ราย เฉลี่ยตกปีละ 28 ราย โดยปีที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือในปี 2555 จำนวน 39 ราย หลังจากนั้นก็มีจำนวนลดลงมาตามลำดับ โดยล่าสุดปี 2559 มีผู้ป่วย จำนวน 13 รายในขณะที่ในปีนี้ มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.เชียงคำจำนวนเพียง 2 รายเท่านั้น  เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูฝน เห็ดกำลังออกดอก
              
 

 

  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวอีกว่า สำหรับเห็ดที่มีพิษ หลักๆจะประกอบด้วยเห็ดระโงกและเห็ดไข่ห่าน ซึ่งเห็ดบางชนิดกินได้ และเห็ดบางชนิดกินไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่เจอ บ่อยๆ ก็เป็นเห็ด 2 ชนิดข้างต้นนี้ ซึ่งมีพิษค่อนข้างรุนแรง สำหรับการสังเกต เห็ดที่มีพิษ สังเกตได้ค่อนข้างยาก โดยหลักๆ แล้วจะสังเกตได้ที่ สะเก็ดบนหมวกเห็ด มักจะมีสะเก็ด เปลือกที่หุ้มขาดอยู่บนหมวก ซึ่งหากฝนตกลงมามันก็จะหลุดออกไป ทำให้สังเกตค่อนข้างยาก และจุดสังเกตอีกอย่างคือจะมีวงแหวน อยู่ข้างในใต้เปลือก เห็ดพิษบางชนิดก็ไม่มีวงแหวนเหมือนกัน ซึ่งก็อาจสังเกตยาก เห็ดพิษมักจะมีต้นป่องที่โคน บางชนิดก็ไม่ป่องที่โคนต้น เพราะฉะนั้นจึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนรับประทานเห็ดที่เราคุ้นเคย และกินบ่อยครั้งไม่เกิดอาการเป็นพิษ  ซึ่งเป็นเห็ดในท้องตลาด เช่นเห็ดฟาง เห็ดโคน เห็ดนางฟ้า และเห็ดหูหนู  

สำหรับอาการเมื่อรับประทานเห็ดพิษไปแล้ว อาการก็จะมีลักษณะเป็นเหมือนอาหารเป็นพิษอา เจียนปวดท้องท้องเสีย ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างจะเบาที่สุด และหากมีอาการรุนแรงก็จะมีอาการเป็นพิษต่อตับ จะทำให้เสียชีวิตภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งในทางวิชาการระบุว่า บุคคลที่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด เปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตยังอยู่ที่ร้อยละ 10
ซึ่ง สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยรับประทานเห็ดพิษเสียชีวิต เนื่องจากได้รับการรักษาล่าช้า เช่น คนที่รับประทานเห็ดระโงก เบื้องต้นจะมีอาการแค่อาเจียน และอาหารเป็นพิษ เหมือน ไม่มีอาการรุนแรง และอาการจะดีขึ้น หลังจากนั้นเข้าวันที่ 3 จะเริ่มมีอาการตัวเหลือง นั่นหมายถึงว่าเกิดอาการตับวายแล้ว ซึ่งเป็นระยะที่รักษาไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด

ทั้งนี้หากรับประทานอาหาร เห็ด ไปแล้ว ผ่านไป 4-6 ชั่วโมง มีอาการเป็นพิษเช่นปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนหรือเริ่มมีท้องเสีย ให้เริ่มสงสัยเห็ดเป็นพิษไว้ก่อน และให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด ซึ่งจะทำให้ ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตค่อนข้างสูง วิธีแก้พิษเบื้องต้นคือรับประทานน้ำอุ่นกับผงถ่าน ที่รับประทานตอนท้องเสียทั่วไป เพื่อให้อาเจียนเอาพิษ ออกมามากที่สุด แล้วรับไปพบแพทย์ทันที ที่สำคัญให้ญาตินำเห็ดที่เหลือจากการรับประทาน เพื่อให้แพทย์ทราบว่ารับประทานเห็ดอะไรเข้าไป จะได้ทราบว่าเป็นพิษประเภทไหนและจะให้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

 

โดยนายแพทย์สาสุขจังหวัดพะเยา ฝากเตือนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ว่า ขอให้รับประทานแต่เหตุที่เราคุ้นเคยหรือรับประทานแล้วไม่เกิดอาการเป็นพิษ ซึ่งจะทำให้ปลอดภัยกว่าเหตุที่เราไม่รู้จักหรือคุ้นเคย เช่นเห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง เห็ดโคน เห็ดหูหนู ซึ่งเป็นเหตุที่เราเพาะขึ้นมาและยืนยันได้ว่าไม่มีพิษ โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นต้นฤดูฝนเห็ดจะออกมามากซึ่งมีเห็ดที่มีพิษและเห็ดไม่เป็นพิษ จะออกพร้อมกัน โดยชาวบ้านที่เก็บมาขาย ก็อาจจะมีประสบการณ์ไม่มากพอในการคัดแยก เห็ดพิษและเหตุไม่มีพิษออกจากกัน อาจทำให้เห็ดมีพิษปะปนมาด้วย หากรับประทานเข้าไปก็จะเป็นอันตรายได้ ส่วนวิธีการตรวจสอบเหตุพิษบางอย่างเช่น การใส่ข้าวสารลงไป หากข้าวสารเป็นสีดำก็แสดงว่าเห็ดเป็นพิษ ซึ่งตรงนี้ขอยืนยันว่าสามารถตรวจได้เฉพาะเห็ดพิษบางชนิดเท่านั้น ขณะที่วิธีการจุ่มช้อนเงินลงไปแล้วช้อนเงินจะเปลี่ยนสี ก็ลักษณะเช่นเดียวกัน โดยขอยืนยันว่าวิธีการตรวจสอบดังกล่าว ไม่สามารถตรวจเห็ดพิษได้ 100% จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระวัง การรับประทานเห็ดพิษ ในช่วงนี้ด้วย....

                            ภาพ/ข่าว ณัฐชยาพร บุญแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.พะเยา