รายการทีนิวส์สด ลึก จริงวันนี้(15 มิ.ย.60)รายงานการสัมภาษณ์พิเศษ นายวิทยา แก้วภราดัย กรณีเหตุซื้อ-ขายตำแหน่ง ตร.

      เมื่อวันพุธ ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมคณะทีมกฎหมายและทีมโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ตั้งโต๊ะชี้แจงกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจประจำปี 2559 มีการซื้อขายตำแหน่ง โดยเฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (บช.ภ.8) และระบุด้วยว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซื้อขายด้วยตัวเลขสูงกว่ากองบัญชาการอื่นเป็น 2 เท่า

    โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์แถลงว่า หลังนายวิทยาออกมากล่าวหา ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้ข่าวคราวเรื่องแบบนี้ในพื้นที่ บช.ภ.8 มีหนังสือร้องเรียนเข้ามา จึงออกคำสั่งให้ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พ้นตำแหน่งให้ออกจากพื้นที่มาช่วยงานที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพื่อเปิดโอกาสการตรวจสอบ พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เวลา 15 วัน และรายงานมา  โดยได้ระบุว่า

     “เรื่องนี้ทำได้ง่ายและโปร่งใส หากมีมูลความจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทางจเรตำรวจแห่งชาติคงเชิญนายวิทยาในฐานะผู้ออกมาพูดเรื่องนี้มาให้ข้อมูล มีหลักฐานใดก็เอาออกมา จะได้ตรวจสอบ ดำเนินคดีต่อคนที่ทำผิด จับให้มั่นคั้นให้ตายตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุ ผมไม่เอาไว้อยู่แล้ว” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว และว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.เทศายังไม่มีความผิด เพียงสั่งให้ตรวจสอบ จึงให้นอกพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของพื้นที่ตรงนั้น แต่ยังไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.ท.เทศา แต่จากนี้ต้องคุยกัน  และได้มีการสอบถามพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในนครบาลแน่ๆ และก่อนหน้านี้ก็ไม่พบการร้องเรียน 

    โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่รู้ว่านายวิทยาออกมาพูดมีเหตุผลอะไร หรือพูดเอามัน คะนองปาก คงต้องให้ บช.น.ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ หากหมิ่นองค์กรหรือบุคคลใด ทำให้เสียหายก็ต้องดำเนินคดี อย่างกรณี บช.น.ไปว่าแบบนั้น มองว่าเสียหาย ก็ต้องบอกให้ บช.น.ไปดำเนินการ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุถึง “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ว่าเข้ามามีอิทธิพลให้การทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า โจ๊ก หวานเจี๊ยบ คือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. (191) ลูกน้อง ไม่มีอะไร ยอมรับว่าบางครั้งก็ใช้งานให้ไปตรวจสอบข้อมูลบุคคลบ้าง ให้ไปเช็กทางลับ จึงอาจถูกเข้าใจผิด ไม่ได้เกี่ยวข้องในการทำบัญชี ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ของ ผบก.191 คือไปช่วยงานสนับสนุนโรงพัก ไปช่วยจับเด็กแว้น ปราบโจรออนไลน์ จับละเมิดสิทธิบัตร ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการแต่งตั้ง
    “ไม่เกี่ยว ใครๆ ก็สนิท ผมก็สนิท ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง” พล.ต.อ.จักรทิพย์ตอบคำถามกรณีโจ๊ก หวานเจี๊ยบ สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตรใช่หรือไม่จึงถูกพาดพิง

    ส่วนทางด้านนายวิทยา  แก้วภราดัย ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวในรายการทีนิวส์สด ลึก จริงในวันนี้(15 มิ.ย.60) เช่นกันความโดยรวมว่า ถ้าหากจะฟ้องตนนั้น ให้ฟ้องเอาที่ศาล เพราะหากจะให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการนั้นเรื่องอาจจะไปไกลกว่าเดิม   ตนนั้นก็ไม่เคยเป็นคนประเภทเด็กเลี้ยงแกะมาก่อนในทางการเมือง ฉะนั้นแล้วจับมือกันช่วยแก้ปัญหาดีกว่า ทางตัวเองนั้นก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล ยินดีหากจะเรียกเข้าสอบสวน ก่อนจะฝากถึงทางผบ.ตร.ด้วยว่าให้ใจเย็นๆ และอย่ารนไปกว่านี้  พร้อมทั้งฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่าจับตาดูการดิ้นรน ของ สตช. อีกด้วย