“นี่ฉันไม่ได้สั่งให้ทำนะ ฉันให้ไปคิด คิดแล้วมาเล่าให้ฉันฟัง”เพราะพ่อหลวง ร.๙ ทรงฟังเหตุผลคนเสมอ แม้แต่ราษฎรทั่วไปท่านก็ทรงฟัง#ตามรอยที่พ่อทำ

“นี่ฉันไม่ได้สั่งให้ทำนะ ฉันให้ไปคิด คิดแล้วมาเล่าให้ฉันฟัง”เพราะพ่อหลวง ร.๙ ทรงฟังเหตุผลคนเสมอ แม้แต่ราษฎรทั่วไปท่านก็ทรงฟัง #ตามรอยที่พ่อทำ

แม้ในการประกอบพระราชกรณียกิจ หรือเวลาริเริ่มทำโครงการส่วนพระองค์ต่างๆ ในหลวง ร.9 จะทรงมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเต็มที่ในฐานะที่เป็นพระมหากษัตริย์ และในฐานะเจ้าของโครงการ แต่ในหลวงของเราไม่ได้ทรงงานแบบนั้น ทรงเป็นพระราชาที่ยอมรับฟังความเห็นของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมิตรสหาย ข้าราชบริพาร ข้าราชการ หรือประชาชน ทรงไม่ได้ถือเอาว่าความคิดของท่านเป็นใหญ่กว่าใครอื่นเลย 

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :บุญญาบารมีของในหลวงรัชกาลที่ ๙!! พระบารมีแผ่ถึงฝนฟ้า...นำพาความร่มเย็นมาให้ประชาชน!!

โดยเฉพาะเวลามีพระราชดำริให้สร้างโครงการมากมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทรงโปรดให้ข้าราชการที่รับใช้สามารถยกข้อมูลและเหตุผลโต้แย้งกันได้ เพราะทรงเข้าใจดีว่าต้องฟังความรอบข้างและเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ให้มากที่สุด งานนั้นๆ จึงจะสำเร็จได้ด้วยดี ดังที่เคยตรัสในวาระหนึ่งว่า
“...นี่ฉันไม่ได้สั่งให้ทำนะ ฉันให้ไปคิด คิดแล้วมาเล่าให้ฉันฟัง มันคิดและบางทีมันถูกต้องก็ทำอย่างที่เธอว่า ถ้ามันไม่ถูกต้องก็ไม่ต้องทำ...”
ทรงฟังเหตุผลคนเสมอ แม้แต่ราษฎรทั่วไปท่านก็ทรงฟัง

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระราชดำรัสแนะนำไว้ว่า "ถวายดอกไม้พระอย่างไร..ให้ได้ประโยชน์" เพื่อหนทางสู่ความดี

ตัวอย่างหนึ่งที่ทรงรับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชาจนงานนั้นประสบผลสำเร็จ คือ เมื่อปี 2519 ทรงมีพระราชประสงค์จะส่งน้ำจากภูเขาที่ อ.ปัว จ. น่าน ลงมาที่ศูนย์อพยพบ้านป่ากลาง ตอนนั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำพิมพ์เขียวมาถวาย โดยให้ทำฝายส่งน้ำ 2 จุดแล้วใช้ไฟฟ้าช่วยปั่นน้ำ กำหนดงบประมาณโครงการมาที่ 80 ล้านบาท ในหลวงทรงพิจารณาแล้วถามผู้ว่าราชการ จ. น่านว่า “อย่างนี้เหมาะสมไหม”ถ้าเป็นคนอื่นอาจกราบบังคมทูลกลับไปว่าเหมาะสม แต่ผู้ว่าฯ กราบบังคมทูลว่า ไม่เห็นด้วย เพราะถ้าทำตามแบบนี้แล้วฝนไม่ตกบนเขา ฝายที่จะใช้ไฟฟ้าปั่นก็จะทำงานไม่ได้ ควรจะทำเป็นฝายเตี้ยๆ พอให้มีน้ำขัง แล้วทำท่อเหล็กยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ต่อข้ามภูเขา น้ำก็จะส่งไปถึงหมู่บ้านได้ไม่ยาก
ในหลวงตรัสถามต่อว่า เรียนจบวิศวะมาหรือถึงรู้เรื่องการส่งน้ำ ผู้ว่าฯ กราบบังคมทูลว่าไม่เคยเรียนวิศวะแต่สังเกตจากที่ชาวบ้านใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกต่อกันเพื่อส่งน้ำจากน้ำตก ลำธาร ภูเขา ถึงน้ำจะหกไปบ้างแต่ก็ยังไปถึงหมู่บ้าน ทางราชการมีทั้งเงิน ทั้งของ ทั้งความคิด น่าจะต่อยอดจากรูปแบบของชาวบ้าน งบประมาณโครงการอาจจะเหลือเพียง 10 ล้านบาท พอได้ฟังดังนั้น ในหลวงทรงปิดกระเป๋าเก็บพิมพ์เขียว และรับสั่งว่า “มาช่วยกันเขียนดูว่าจะทำได้ไหม”
แล้วโครงการนี้ก็เสร็จสมบูรณ์ สามารถแก้ปัญหาของชาวบ้านได้อย่างยั่งยืน
เรียบเรียงจาก 
- บทความของ โชดก วีรธรรม พูลสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง จากหนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้อยู่ในหัวใจของนักปกครอง
-บทความของ สิทธิลาภ วสุวัต อดีตอธิบดีกรมพัฒนาทีดิน จากหนังสือแม่อยากให้เธออยู่กับดิน
ที่มา : FB:เพจ สานต่อที่พ่อทำ

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :พระราชอารมณ์ขัน ของ ในหลวงรัชกาลที่๙ ที่อำเภอหัวหิน พระราชวังไกลกังวล
ข่าวโดย :  กิตติ จิตรพรหม ทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์