- 20 มิ.ย. 2560
ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน รัสเซียจะหยุดยั้งการโต้ตอบทั้งหมดกับสหรัฐฯ ในกรอบการบันทึกข้อตกลงในการป้องกันอุบัติเหตุในท้องฟ้าของซีเรีย
สปุตนิตนิวส์ รายงานข่าว กรณี ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน รัสเซียจะหยุดยั้งการโต้ตอบทั้งหมดกับสหรัฐฯ ในกรอบการบันทึกข้อตกลงในการป้องกันอุบัติเหตุในท้องฟ้าของซีเรียกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวเมื่อวันจันทร์ ที่ 19 มิถุนายน หลังจากที่กองสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-18 ซูเปอร์ฮอร์เน็ต ขึ้นยิง เครื่องบินรบเอสยู-22 ของกองทัพซีเรียตก
ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียจึงออกมาประกาศยกเลิกบันทึกช่วยจำด้านความปลอดภัยการบินระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯในซีเรีย ซึ่งต่างฝ่ายต่างต้องแจ้งกันว่าจะบินไปไหนด้วยภารกิจใด
สหรัฐฯและรัสเซียได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจทวิภาคีในเดือนตุลาคมปี 2015 เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของเที่ยวบินระหว่างการสู้รบกับซีเรีย
แต่เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน กองทัพซีเรีย กล่าวว่าสหรัฐฯ ได้ยิงเครื่องบินของตนตกหลังปฏิบัติภารกิจกับในการทิ้งระเบิดใส่กลุ่มกบฏ
นาวาเอก เจฟฟ์ เดวิส โฆษกเพนตากอนยืนยันว่า ปฏิบัติการยิงเครื่องบินรบซีเรียตกครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุปะทะระหว่างฝ่ายรัฐบาลซีเรียกับฝ่ายกบฏ พร้อมกับชี้แจงว่า นับตั้งแต่สหรัฐฯเริ่มทำการฝีกฝนและให้คำปรึกษาด้านยุทธวิธีแก่กองกำลังประชาธิปไตยซีเรียในการสู้รบกับกลุ่มไอเอสเป็นต้นมา สหรัฐฯได้ให้การปกป้องกองกำลังเหล่านี้เรื่อยมา และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯได้เข้าร่วมปฏิบัติการสู้รบทางอากาศสู่อากาศ ตามคำมั่นที่ให้ไว้กับพันธมิตร
ต้นเดือนเมษายนเกิดการโจมตีขีปนาวุธโทมาฮอร์ค ของกองทัพเรือสหรัฐฯ กับสนามบินของกองทัพซีเรียที่หน่วยรบทางอากาศของรัสเซียในซีเรียปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ทางรัสเซีย จึงได้สั่งให้มีการติดตั้ง ระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400, S-300 และ Pantsir ป้องกันอากาศยานที่ สนามบิน Hmeymim และขณะนี้รัสเซีย พร้อมที่จะใช้ระบบเหล่านี้เพื่อตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ ที่มีต่อพันธมิตรหลักของรัสเซีย ในซีเรียทันที