ปชช.ว่างัย?!?“พล.ต.อ.”บอกข่าวซื้อตำแหน่งแค่คนขี้อิจฉา!?!อ้างถาม“ตำรวจแล้ว33,000นาย”ไม่มีใครซื้อ-ขาย ฟุ้ง!!แค่คิด“ผบ.ตร.”ก็ได้ยิน???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตร วาระประจำปี 2559 ไปกว่า5,700 ราย ต่อมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้กล่าวไว้พบใครซื้อขายตำแหน่งมีการจ่ายเงินวิ่งเต้นจะสั่งสอบและดำเนินการอย่างเด็ดขาด จากนั้นนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส. ออกมาให้ข้อมูลถึงโดยอ้างว่าพบตัวเลขการข้ามห้วยที่ออกมาอาจดูไม่น่าเกลียดมากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงมาก และต้องแสดงความเสียใจต่อบรรดานักวิ่งเต้นแล้วพลาด เงินจ่ายแล้วแต่ก็ไม่ได้ตำแหน่ง กระทั่งมีคำสั่งย้ายพล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) และตั้งกรรมการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน15วัน

       ทั้งนี้ในการประชุมสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. โดยภายหลังหมดวาระการประชุมแล้ว น.ส.วลัยลักษณ์ ศรีอรุณ รองประธานสปท.ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เปิดโอกาสให้สมาชิก สปท.ได้หารือประเด็นต่างๆโดย  พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา สมาชิกสปท.และในฐานะที่ปรึกษา สบ.10 ได้กล่าวถึงกรณีนายวิทยา ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ และอาจมีการฟ้องกลับว่า ไม่อยากให้เอาสปท.ไปเกี่ยวข้อง การกล่าวหาเรื่องซื้อขายตำแหน่งมีการกล่าวกันมาหลายครั้ง แต่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเพื่อนตำรวจ รุ่นพี่ รุ่นน้อง 300 คน และลูกศิษย์ตำรวจอีก 3 หมื่นคน ไม่พบว่ามีใครจ่ายเงินหรือรับเงินจากการซื้อขายตำแหน่ง

 

       “ไม่มีผู้บังคับบัญชาคนใดขายตำแหน่ง การซื้อขายตำแหน่งยุคนี้ไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีหูมีตามีหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งทหาร หน่วยข่าว และฝ่ายปกครองสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆได้ถึงขั้นมีการเปรียบเปรยไว้ว่า แค่คิดก็ได้ยินแล้ว

ปชช.ว่างัย?!?“พล.ต.อ.”บอกข่าวซื้อตำแหน่งแค่คนขี้อิจฉา!?!อ้างถาม“ตำรวจแล้ว33,000นาย”ไม่มีใครซื้อ-ขาย ฟุ้ง!!แค่คิด“ผบ.ตร.”ก็ได้ยิน???

       นอกจากนี้ ที่ปรึกษาสบ.10 ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเรื่องการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ พบว่าต้นตอข่าวลือมาจากกลุ่มที่ผิดหวังการแต่งตั้งโยกย้าย โกรธเคืองเป็นการส่วนตัวที่ผู้บังคับบัญชาไม่ย้ายตำแหน่ง หรือแต่งตั้งให้ตนเองมีตำแหน่ง จึงปล่อยข่าวลือ และผิดหวังจากการโดนย้ายตำแหน่ง ริษยาผู้ที่ได้ตำแหน่งดีกว่า จึงใส่ร้ายผู้ได้ตำแหน่งว่าซื้อขายเก้าอี้ จะได้มีคนเกลียดชัง และกลุ่มกองเชียร์ข้าราชการตำรวจที่กำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่ง

 

       อย่างไรก็ตามพบว่าเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2559  พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา (ยศในขณะนั้น)ในขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร.ได้เป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านการปฏิรูประบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายด้วย โดยทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.พงศพัศพงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ซึ่งได้รับมอบเป็นหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนและประสานงานการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ซึ่งปฏิบัติภารกิจติดตามการดำเนินการในการจัดทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนแบบบูรณาการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและการอำนวยความยุติธรรมในสถานีตำรวจ 514 แห่งทั่วประเทศและจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน1ปี ทำให้การดำเนินการดังกล่าวนี้จะครบ1ปีในเดือนหน้าซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปว่าภารกิจดังกล่าวนี้ของพลตำรวจเอกสุวิระ จะสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่

ปชช.ว่างัย?!?“พล.ต.อ.”บอกข่าวซื้อตำแหน่งแค่คนขี้อิจฉา!?!อ้างถาม“ตำรวจแล้ว33,000นาย”ไม่มีใครซื้อ-ขาย ฟุ้ง!!แค่คิด“ผบ.ตร.”ก็ได้ยิน???