สุดยิ่งใหญ่!! จัดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคเหนือตอนล่างตื่นตาตื่นใจกับ 3 วัฒนธรรม ล้านนา ล้านช้าง และ สุโขทัย (คลิป)

อุตรดิตถ์แถลงข่าวจัดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาคเหนือตอนล่าง ศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรมสมัยสุโขทัย เอกลักษณ์ที่สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชื่อมโยงพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน พม่า ลาว และ กลุ่มอินโดนีเซีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มรายได้ให้กับประเทศและชุมชน ดึงอาคาร "หอวัฒนธรรม" สถาปัตยกรรมยุค พระพุทธเจ้าหลวง ร.5 แบบ ARCH ของโรมันกลุ่มยุโรป ที่มีอายุกว่า 100 ปี นำมาเป็นจุดขายพัฒนาต่อยอดด้านเศรษฐกิจคู่กับถนนคนเดินให้กับคนในท้องถิ่น โดยวัฒนธรรมจังหวัดร่วมกับ อบจ. นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศตื่นตาตื่นใจกับ 3 วัฒนธรรม ล้านนา ล้านช้าง และ สุโขทัย พร้อมเพลินเพลินกับการชม ช๊อป ชิม เที่ยว เลือกซื้อสินค้ากว่า 100 บูธ ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน อาหารรสเด็ด อย่างเต็มที่

 

ที่บริเวณหอวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ถนนพาดสนามบิน เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานแถลงข่าว " งานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 " ประกอบด้วย จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก และ เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมและอารยธรรมในสมัยสุโขทัย โดยมีมรดกทางวัฒนธรรมและมีความเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และเชื่อมโยงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า (เมียนมาร์) และกลุ่มประเทศอินโดนีเซีย โดยมี น.ส.ปรารถนา มงคลธวัช วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับและร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้

 

การจัดงานครั้งนี้ นำมิติทางวัฒนธรรมมาขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง1 เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูและเผยแพร่มรดกศิลปทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกัน รวมถึงความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อการเรียนรู้และภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ความเป็นชาติไทย นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดี ด้วยมิติทางด้านวัฒนธรรมที่เป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์เป็นสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มรายได้ให้กับประเทศและประชาชนในชุมชน รวมถึงการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้คนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดได้รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างพื้นที่ถนนสายวัฒนธรรมจังหวัด 

"งานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1" จัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน -1 กรกฎาคมนี้ บรรยากาศภายในงานจะถูกจัดเป็นแบบคลาสสิค ให้กลมกลืนกับตัวอาคารหอวัฒนธรรม ที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมยุคสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 แบบ ARCH (Architecture of ancient Rome)ของโรมันในกลุ่มยุโรปมาประยุกต์ แต่มีการฉลุลวดลายไม้เพิ่มเติมผสมผลานกัน  ลักษณะตัวอาคาร เป็นไม้โบราณ 2 ชั้น ฝาไม้ตีซ้อน หน้าต่างเป็นบานเกล็ดกระทุ้งอยู่ในบาน หน้าต่างมีใหญ่ สามารถเปิดได้ทั้งบาน ด้านหน้ามียื่นมุขหักมุม ด้านล่างของมุมปล่อยโล่ง มีการตกแต่งบัวหัวเสา อาคารหอวัฒนธรรมหลังนี้ มีอายุกว่า 100 ปี เกิดการเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา และได้รับการปรับปรุงบูรณะใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2559 โดยกรมศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย  

นักนักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาสัมผัสภายในงาน จะได้ชมการแสดงศิลปทางวัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง1 และศิลปวัฒนธรรมของอุตรดิตถ์เมืองงาม 3 วัฒนธรรม อันได้แก่ วัฒนธรรมล้านนา วัฒนธรรมล้านช้างและวัฒนธรรมสุโขทัย ของทั้ง 9 อำเภอ รวมถึงการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมเพลิดเพลินกับการชม ชิม ช๊อป เลือกซื้อสินค้า ทางวัฒนธรรมในราคาย่อมเยาวจำนวนเกือบ 100 บูธ พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน อาหารรสเด็ดขึ้นชื่อ ของดีบ้านฉัน ให้อิ่มอร่อยในรสชาดกันอย่างเต็มที่ บนถนนสายวัฒนธรรมของจังหวัดอุตรดิตถ์ ข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อุตรดิตถ์ เป็นผู้สร้างสรรค์ถนนสานนี้ขึ้นมาเพื่อประชาชนชาวอุตรดิตถ์และนักท่องเที่ยว

สำหรับ "หอวัฒนธรรม" แห่งนี้ เจ้าของเดิมคือ ขุนพิเนตรจีนภักดิ์ นายภาษีอาการเมืองอุตรดิตถ์ได้แนวคิดหรือลอกเลียนรูปแบบบางส่วนของพระที่นั่งวิมานเมฆ แล้วจ้างเหมาให้ช่างชาวจีน เถ้าแก่โฮก เป็นผู้สร้างขึ้นที่บ้านท่าอิฐล่าง ตลาดท่าอิฐ ( ปัจจุบันเป็นหาดทราย ) ต่อมาขุนพิเนตรจีนภักดิ์เป็นความกับราชการ เนื่องจากเก็บภาษีอากรแล้วนำไปส่งไม่ครบ เมื่อแพ้ความจึงถูกยึดทรัพย์ ต่อมา พระยาวโรดมภักดีศรีอุตรดิตถ์นคร เจ้าเมืองอุตรดิตถ์สมัยนั้น ได้สั่งย้ายอาคารมาสร้างใหม่ตรงที่ตั้งปัจจุบัน แล้วใช้เป็นเรือนรับรองข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่ถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีใครเข้ามาดูแล ทางคณะอาจารย์สถาบันราชภัฎอุตรดิตถ์ร่วมกับจังหวัดอุตรดิตถ์ ช่วยกันอนุรักษ์และจัดตั้งเป็นหอวัฒนธรรมจังหวัด จนได้รับรางวัลดีเด่นอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยประจำปี พ.ศ. 2537 จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมถ์

ภาพ/ข่าว สมภพ  สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อุตรดิตถ์