ตัวอย่างที่ดี-ทำเป็นไหม!?!“ผบ.ตร.”ควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกน้อง!!!หลังสั่งห้ามตำรวจแสดงกิริยาสนิทสนม“ผู้ต้องหา”เพื่อสร้างความเชื่อมั่น???

       จากกรณีวันที่20มิ.ย.ที่ผ่านมาที่ทหารได้ส่งมอบตัวนาย วัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ปรากฎว่านับตั้งแต่วันนั้นก็เกิดภาพที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา อาทิ ภาพนาย วัฒนา ถือไมค์แถลงโจมตีนายกรัฐมนตรี  ภาพนายวัฒนา ผู้ต้องหากระซิบข้างหูพล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และภาพพล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร  ผบช.น กอดผู้ต้องหา คือนายวัฒนา  ภุมเรศ เป็น3เหตุการณ์ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวางถึงการกระทำของผู้หลักผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกับบุคคลซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือระเบิดโรงพยาบาล ที่คนปกติธรรมดาไม่อาจกระทำการเช่นนี้ได้ ยกเว้นคนที่มีจิตใจเลวเเบบสุดขั้วเท่านั้นจึงจะก่อเหตุดังกล่าวได้

       และที่สำคัญ นี่ก็ไม่ได้เป็นเหตุการณ์แรก ก่อนหน้านี้ผบ.ตร.เพิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปครั้งหนึ่งกับคดีฆ่าหั่นศพที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับกุมได้ที่จ.เชียงราย นั่งเครื่องบินเข้ามาที่กรุงเทพฯ เพียงเพื่อให้ผบ.ตร. แถลงข่าวก่อนพาตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนั่งเครื่องบินต่อไปขอนแก่นพื้นที่ในการก่อเหตุ และด้วยเสียงวิจารณ์ที่มีทำให้ในที่สุดผบ.ตร. ได้ออกคำสั่งด่วนที่สุด ว่าด้วยเรื่องระเบียบการปฎิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน ว่า เนื่องจากที่ผ่านมาปรากฎว่ามีการให้ข่าว แถลงข่าว หรือให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมอันอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงห้ามให้ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจ ให้ข่าว  แถลงข่าว หรือ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทุกแขนงโดยเด็ดขาดในทุกกรณี 

       ห้ามให้บุคคลใดบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะอยู่ร่วมกับผู้ต้องหา พร้อมห้ามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงกิริยาอาการในลักษณะที่อาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจในทำนองว่ามีความใกล้ชิด สนิทสนมกับผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  และคำสั่งดังกล่าวนี้ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฎิบัติตามจะถูกพิจารณาข้อบกพร่องทั้งทางวินัยและทางปกครองอย่างเฉียบขาด ลงชื่อ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และคำสั่งดังกล่าวนี้จะมีผลในทางปฎิบัติเป็นอย่างยิ่งหากผู้บังคับบัญชาระดับสูงอย่างผบ.ตร.ได้ตระหนัก และรู้ในหน้าที่ว่า หน้าที่ของตำรวจคืออะไรแล้ว คงไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชารายใดจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นแน่

 

 

 

 

ขอบคุณ : บุญระดม มุมมองข่าว