ปาฏิหาริย์!! เสี่ยคนดังห้อยเดี่ยว "เหรียญหลวงพ่อมุ่ย" เจอฟันคอด้วยดาบอย่างจัง ไล่แทงจนดาบหัก สลบคาที่ พบแต่เพียงรอยขีดข่วนทั่วร่าง..

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ www.tnews.co.th

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี

'เหรียญดาบหัก'

มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับ “เสี่ยเจ้าของบ่อดินลูกรัง” มีชื่อว่า “นายแจ่ม สังข์งาม” หรือที่ชาวอำเภอเดิมบางนางบวชเรียกขานว่า “เสี่ยโห้” ปัจจุบันอายุ ๕๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๘/๔ หมู่ ๕ ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (เหตุที่บอกบ้านเลขที่ไว้เผื่อใครสนใจอยากไปฟังเรื่องราวกับหูตัวเองก็เชิญได้เลย) ซึ่งวันนั้นวันที่เกิดเหตุ “เสี่ยโห้” นั่งดื่มสุราอยู่กับพรรคพวก ๒ คนที่ร้านข้าวต้ม “เฮียฮ้อ” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ “สถานีรถเมล์” สายเดิมบางนางบวช ต.ท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น.

ปาฏิหาริย์!! เสี่ยคนดังห้อยเดี่ยว "เหรียญหลวงพ่อมุ่ย" เจอฟันคอด้วยดาบอย่างจัง ไล่แทงจนดาบหัก สลบคาที่ พบแต่เพียงรอยขีดข่วนทั่วร่าง..

ปาฏิหาริย์!! เสี่ยคนดังห้อยเดี่ยว "เหรียญหลวงพ่อมุ่ย" เจอฟันคอด้วยดาบอย่างจัง ไล่แทงจนดาบหัก สลบคาที่ พบแต่เพียงรอยขีดข่วนทั่วร่าง..

หลังจากดื่มกินกันไปหลายขวดเพื่อนสองคนเมาจน “หลับพับคาโต๊ะ” จึงเหลือ “เสี่ยโห้” คนออกตังค์นั่งโจ้อยู่คนเดียวระหว่างกำลังดื่มเพลิน ๆ อยู่นั้นพลันก็มี “มีดดาบ” ฟันฉับลงบน “ลำคอเสี่ยโห้” ทางด้านหลังเต็มแรงยังผลให้ “เสี่ยโห้” หัวทิ่มลงไปกับพื้นพร้อมกับบังเกิดความมึนงงอยู่ชั่วขณะ พอตั้งสติได้จึงหันไปมองผู้ที่ย่องมาลอบทำร้ายก็พบเห็นเป็น “นายซีน” (ขอสงวนชื่อจริง) ลูกชายของ “ร้านตัดกางเกง” ซอยตลาดบนในตลาดท่าช้างนั่นเองซึ่งเป็นคนรู้จักกันดียืนผงาด “มือกำดาบ” ขาววับเล่มใหญ่กำลังเงื้อดาบหมาย “ฟันซ้ำ” อีก “เสี่ยโห้” เห็นเช่นนั้นรีบลนลานลุกขึ้นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนด้วยความกลัวท่ามกลาง “สายตาของชาวบ้าน” ที่เห็นเหตุการณ์หลายสิบคน “เสี่ยโห้” ที่วิ่งแบบไม่คิดชีวิตตามแบบฉบับของคน “หนีตาย” ไปได้ชั่วครู่ก็วิ่งไปชนเอารถเมล์ที่จอดอยู่ที่ “ท่าจอดรถ” เสียงดังสนั่นผลก็คือตัวเอง “ล้มกลิ้งกับพื้น” ทำให้ “นายซีน” ที่วิ่งไล่กวดมาติด ๆ พอเห็น “เสี่ยโห้” ล้มกลิ้งอยู่กับพื้นจึงใช้มีดดาบเล่มที่ถืออยู่ในมือ “แทงเสี่ยโห้” แบบไม่ยั้งกระทั่งดาบเล่มนั้น “หักคามือ” ท่ามกลางสายตาของ “ไทยมุง” ที่เรียงรายมาล้อมวงดูเหตุการณ์

ปาฏิหาริย์!! เสี่ยคนดังห้อยเดี่ยว "เหรียญหลวงพ่อมุ่ย" เจอฟันคอด้วยดาบอย่างจัง ไล่แทงจนดาบหัก สลบคาที่ พบแต่เพียงรอยขีดข่วนทั่วร่าง..

ปาฏิหาริย์!! เสี่ยคนดังห้อยเดี่ยว "เหรียญหลวงพ่อมุ่ย" เจอฟันคอด้วยดาบอย่างจัง ไล่แทงจนดาบหัก สลบคาที่ พบแต่เพียงรอยขีดข่วนทั่วร่าง..

ระหว่างนั้น “จ่าธง” แห่ง “สภ.เดิมบางนางบวช” ได้ยินเสียงคนเอะอะจึงวิ่งมาดูเหตุการณ์พร้อมทำการ “ระงับเหตุ” ก็พบว่าผู้ถูกทำร้ายนอนสลบเหมือดอยู่กับพื้นแล้วจึงจับ “นายซีน” ไปโรงพักทางด้านเพื่อนร่วมดื่มของ “เสี่ยโห้” ที่บัดนี้หายเมาแล้วกลับคิดว่าเสี่ยโห้ถูกมีดแทงตายแล้วจึงช่วยกันหามร่างเสี่ยโห้ไปยัง “ศาลาวัดท่าช้าง” จากนั้นก็ไปแจ้งข่าว “คุณพ่อคุณแม่” ของ “เสี่ยโห้” ให้ทราบเรื่องซึ่งพอทราบเรื่อง “คุณพ่อคุณแม่” ของเสี่ยโห้รีบรุดไปดูลูกชายทันทีแต่พอไปถึง “ศาลาวัดท่าช้าง” ก็เห็นลูกชาย “ลุกนั่ง” แต่อยู่ในสภาพ “โงนเงน” เต็มทีเลยตกใจเพราะตามคำของผู้ไปบอกนั้น “ลูกชาย” ถูกแทงตายแล้วจึงตรงไปสำรวจตรวจดูตามร่างกายปรากฏว่า “ลูกชาย” ไม่มี “รอยแผล” ใด ๆ เลยเพียงแต่ที่ “คอด้านหลัง” มีรอยแดงเป็นทางยาวปูดนูนออกมาให้เห็นชัดเจนส่วนลำตัวที่ถูกถอดเสื้อออกแล้วพบว่ามี “รอยขีดข่วน” เต็มไปหมดที่ด้านหลังโดยที่ “พระเลี่ยมทอง” พร้อม “สร้อยคอทองคำ” ที่ใช้แขวนพระเป็นเพื่อนที่ช่วยหามเสี่ยโห้เก็บเอาไว้ก็พบว่าเป็น “สร้อยคอทองคำหนัก ๓ บาท” ที่อยู่ในสภาพ “ขาดกระจุย” ร่วงตกอยู่ในเสื้อของ “เสี่ยโห้” ที่เกิดจากแรงฟันของดาบส่วน “พระเลี่ยมทอง” ซึ่งก็คือ “เหรียญหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่” รุ่น “วางศิลาฤกษ์” ปี ๒๕๐๗ ที่มีเพียงเหรียญเดียวก็ยังอยู่ครบจึงเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “เสี่ยโห้” รอดตายเพราะ “เหรียญหลวงพ่อมุ่ย” ช่วยไว้แน่นอนเพราะขณะโดนฟันโดนแทง “เสี่ยโห้” แขวนเหรียญหลวงพ่อมุ่ยเพียง “เหรียญเดียว” ที่แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า “เหรียญ ๕ เสาร์” แต่พอมีเหตุการณ์นี้จึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ใหม่ว่า “เหรียญดาบหัก”

ปาฏิหาริย์!! เสี่ยคนดังห้อยเดี่ยว "เหรียญหลวงพ่อมุ่ย" เจอฟันคอด้วยดาบอย่างจัง ไล่แทงจนดาบหัก สลบคาที่ พบแต่เพียงรอยขีดข่วนทั่วร่าง..

ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาข้อมูล ศิษย์มีครู