สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร) ทรงยกธรรมภาษิตของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัชกาลที่ ๕ ประทานเป็นแนวทางเพื่อความเจริญของชีวิต

สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร) ทรงยกธรรมภาษิตของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัชกาลที่ ๕ ประทานเป็นแนวทางเพื่อความเจริญของชีวิต

วันจันทร์ ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๖.๓๐ น. เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จออก ณ ลานหน้าไพทีด้านทิศเหนือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงบำเพ็ญพระกุศลทรงบาตรพระภิกษุสามเณร ๑๘๑ รูป ซึ่งนิมนต์มาจากวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร เนื่องในมงคลสมัยคล้ายวันประสูติ ทรงเจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษา โดยมีประชาชนมาร่วมตักบาตรเป็นจำนวนมาก ณ บริเวณถนนราชบพิธ

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) ทรงอำนวยพรปีใหม่ไทย#เทศกาลวันครอบครัว

การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถาแก่ผู้มาร่วมโดยเสด็จพระกุศลในการทรงบาตร ความตอนหนึ่งว่า
"การที่พวกท่านได้มาร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ในวันคล้ายวันเกิดของอาตมภาพในวันนี้ เป็นที่น่ายินดียิ่งนัก ขอให้ท่านทั้งหลายจงประสบความสุขกายสบายใจ สิ่งใดที่ได้ตั้งความปรารถนาไว้อันเป็นไปโดยชอบประกอบไปด้วยธรรม ขอให้สิ่งนั้นจงสำเร็จทุกประการเทอญ
การที่เราทั้งหลายทั้งอุบาสกอุบาสิกามีจิตใจสมานฉันท์ร่วมกันทำบุญตักบาตรในวันนี้ คิดว่าท่านทั้งหลายมีจิตใจที่ศรัทธาแจ่มใสด้วยธรรมะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประจำใจ
ที่วัดราชบพิธนี้มีธรรมภาษิตซึ่งท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช วัดราชประดิษฐ์ ได้ทรงพระนิพนธ์ไว้ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสร้างวัดราชบพิธนี้ มีติดที่ซุ้มประตูพระอุโบสถบานกลางว่า 'สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา' แปลว่า ความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ หรือผู้ทำงานร่วมกันเป็นหมู่เป็นคณะยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จ
ท่านทั้งหลายได้มาร่วมกันบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ได้ชื่อว่าได้นำธรรมภาษิตที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำมาใช้ปกครองประเทศชาติบ้านเมืองของเราให้ได้รับความเจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้อย่างที่เราได้เห็น ก็ขอให้ท่านทั้งหลายจงเปี่ยมไปด้วยธรรมะ มีธรรมะในจิตใจ โดยเฉพาะพรหมวิหารสี่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ซึ่งท่านทั้งหลายทราบกันแล้ว

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :พระศาสนกิจแรกหลังสถาปนาเป็น" สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)" พร้อมประทานโอวาท แก่คณะสงฆ์หนตะวันออก ในการพระราชทานพัดยศ

ถ้าต่างคนต่างมีธรรมะทั้งสี่ประการนี้ ก็จะเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับที่อาตมาเคยถามคนที่มาเมืองไทย ถามว่ามาเมืองไทยไม่กลัวหรือ เขาบอกไม่กลัวหรอก ทำไมล่ะ เพราะมาเมืองที่เต็มไปด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส เขาเรียกสยามเมืองยิ้ม ก็ขอให้รักษาสยามเมืองยิ้มไว้
ถ้าเรายิ้มกันไว้ จิตใจเราก็ปกติ ไม่เชื่อลองดูก็ได้ เวลาหน้าบึ้งๆ หน้าบูดๆ ลองเอากระจกมาส่องดูก็ได้ มองดูซ้ายดูขวาว่าเป็นยังไง เท่านี้แหละที่อาตมาขอฝากข้อคิด
ขออนุโมทนาทุกท่าน ให้ยิ้มแย้มแจ่มใสสุขกายสุขใจกันทุกคน อย่างที่ได้ยิ้มแย้มแจ่มใสในขณะนี้ และขอให้รักษาความยิ้มแย้มแจ่มใสนี้ตลอดกาลนานของเรา."

ที่มา : FB : เพจ : สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช @SanggharajaOffice
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :“จีนกับไทยไม่เคยเหินห่างจากกัน เป็นญาติพี่น้องใกล้ชิดกันมาตลอด” สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) เมื่อมีพระปฏิสันถาร พระอาจารย์ใหญ่เสวียเฉิง