มวยถูกคู่!!! “กกต.” ซัดกลับ “กรธ.” อย่างรุนแรงว่าทำไม? ไปเข้าข้างพรรคการเมืองที่ไม่เอาไพรมารี่โหวต…(คลิป)

  จากกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ออกมาระบุว่า กกต.ถูกสั่งให้ตอบว่าร่างกฎหมายพรรคการเมือง ว่าด้วยไพรมารีโหวตนั้นไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งในเวลาต่อมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง ก็ได้ออกมาตอบโต้กลับอย่างรุนแรงถึงหลักการ และเหตุผล ขณะเดียวกันนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้วิเคราะห์ถึงประเด็นดังกล่าว โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า

"สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ครับ วันนี้วันที่ 27 มิถุนายน 2560 ครับ  ยังเป็นประเด็นร้อนฉ่าทางการเมืองสำหรับกรณีไพรมารี่โหวตซึ่งความขัดแย้งได้บานปลายออกไปเป็นหลายฝั่งหลายฝ่าย แน่นอนละครับฝ่ายแรกเป็นบรรดานักการเมืองทั้งหลายที่คัดค้านกันอย่างเต็มที่ ส่วนอีก 3 ฝ่ายที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้แก่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช) นี่ก้กลายมาเป็นประเด็น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ออกมาแสดงความเห็นเรื่องไพรมารี่โหวตน้ำหนักก็จะไปทางพรรคการเมืองที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติยาก ที่สำคัญคือนายมีชัย ถึงกับระบุว่า ร่างกฎหมายนั้นส่งผลทำให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งไม่ได้ ทำให้การเลือกตั้งทำไม่ได้หรือการเลือกตั้งมีปัญหา

ถ้าเป็นแบบนี้คงจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อ กรธ.ได้ฟัง กกต.เข้าชี้แจงแล้ว เขาก็บอกว่าร่างกฎหมายพรรคการเมืองว่าด้วยไพรมารีโหวตนั้นไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและ กกต.สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ไม่มีปัญหา แต่เมื่อ กรธ.ได้ถามในรายละเอียด กกต.ก็ตอบไม่ได้ คล้ายกับว่า กกต.อาจจะถูกสั่งมาให้บอกว่าไม่มีปัญหา แต่ใครจะสั่งมานั้นตนก็ไม่ทราบได้ ดังนั้นตอนนี้ กรธ.ก็เลยต้องศึกษาถึงปัญหาของการทำไพรมารีโหวตเอง ก็กลายเป็นประเด็นร้อนทันทีละครับ สำหรับคำให้สัมภาษณ์ของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทั้งนี้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง  ได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่าการที่นายมีชัย มาระบุว่า กกต.ถูกสั่งให้ตอบว่าร่างกฎหมายพรรคการเมือง ว่าด้วยไพรมารีโหวตนั้นไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคการเมืองขนาดกลางและเล็ก คงไม่อยากทำไพรมารีโหวต เพราะไม่มีสาขาพรรคทุกจังหวัด สมาชิกไม่พอ และไม่มีต้นทุนในการจัดการ พรรคการเมืองขนาดใหญ่คงไม่อยากทำ แม้จะมีสาขา มีเงินทุน  เพราะเป็นภาระทางธุรการ และเป็นการลดทอนอำนาจของเจ้าของพรรคหรือกรรมการบริหารในส่วนกลาง ไม่สามารถชี้ตัวคนลงเลือกตั้งได้แต่ต้องฟังจากเสียงประชาชนในพื้นที่ นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกกต.ก็คงไม่อยากให้มีไพรมารีโหวต เพราะเป็นการเพิ่มขั้นตอน มีความยุ่งยากในการทำความเข้าใจ  ลำบากในการกำกับ และยังต้องตรวจสอบว่าการทำไพรมารีของพรรคเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช)ผ่าน ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองให้มีไพรมารีโหวต กกต.จึงบอกว่าพร้อมน้อมรับปฏิบัติ แต่คนที่คัดค้าน กลับกลายเป็น กรธ.โดยยกประเด็นว่า หากมีไพรมารีโหวตพรรคอาจจะส่งผู้สมัครไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นฝ่ายชูธงการปฏิรูปการเมืองมาโดยตลอด  จนมีวาทะ จะปฏิรูปก็ต้องเจ็บปวดบ้าง คราวนี้กลับแปลกว่าไปเจ็บปวดแทนพรรคการเมือง ห่วงพรรคการเมืองจะลำบาก ไม่เพียงเท่านั้นนายสมชัย ยังได้ย้ำต่อไปว่า กรธ. พยายามเอา กกต.เป็นพวก อยากเอาคำพูดของ กกต.ว่าจัดไม่ได้ จัดลำบาก เพื่อมาล้มไพรมารีโหวตของ สนช. พอเจ้าหน้าที่ กกต.บอกในทางตรงข้ามว่าทำได้ ก็ขัดใจหาว่า เจ้าหน้าที่ถูก กกต.บังคับให้พูด   เมื่อเขายืนยันว่าทำงานได้ ทำไมต้องไปบอกว่าถูก กกต.สั่งให้พูด หากคิดว่าสิ่งที่ผมคิดเท่านั้นถึงถูก วันหลังก็อย่าร่างรัฐธรรมนูญว่ากฎหมายลูกต้องผ่านความเห็นชอบจาก สนช.ให้ยุ่งยาก

นายสมชัย ตอบโต้นายมีชัย อย่างรุนแรง ประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปชัดเจนครับว่าทั้ง กกต. กรธ. และสนช. ก็ต้องทำงานร่วมกันในรูปคณะกรรมาธิการวิสามัญ ดังนั้นสถานการณ์เรื่องนี้น่าสนใจติดตามจะออกมาอย่างไร แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งจริงๆครับ ว่าประเด็นที่เป็นปัญหาเรื่องไพรมารี่โหวตพูดกันแต่เรื่องปฏิบัติลำบาก ไม่ได้พูดเรื่องแก้ไขปัญหาหลักในทางการเมืองที่ทุนสามัญหรือเจ้าของพรรคใช้กลไกในการคัดเลือกผู้สมัครสร้างดุลอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์ ดังนั้นจำเป็นเป็นอย่างยิ่งครับที่สังคมไทยจะต้องให้ความสนใจและติดตามเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิด