ปอบมีจริง??? หลวงปู่ดู่เล่า ครั้งหนึ่งเคยเกือบเรียน “วิชาปอบ” เพราะมีคนนำตำราผีปอบมาให้ จนมีควายตายปริศนา เผาตำราทิ้งแทบไม่ทัน!!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

จากรายงานข่าวในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า นายจักรี ทองเจริญ นายออำเภอปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ได้มีหนังสือที่ อจ 0338/2022 ให้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปทุมราชวงศา เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือราษฎรบ้านกุดดานกอย หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านภูดานกอย หมู่ที่ 6 ต.คำโพน ว่า ในระยะเวลา 3 ปีมานี้ ได้เกิดเหตุสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านตายโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะภายในปี 2560 มีโคตั้งครรภ์และคลอดลูกตายไปแล้ว 4 ตัว ประกอบกับมีชาวบ้านเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตลอด จนครูที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูดานกอยเจ็บป่วย พร้อมกันจำนวน 4 คน จึงเกิดความเชื่อว่าเป็นการกระทำของผีปอบในหมู่บ้าน...

ปอบมีจริง??? หลวงปู่ดู่เล่า ครั้งหนึ่งเคยเกือบเรียน “วิชาปอบ” เพราะมีคนนำตำราผีปอบมาให้ จนมีควายตายปริศนา เผาตำราทิ้งแทบไม่ทัน!!

เรื่องของผีปอบ นับเป็น ผีที่ฮือฮามากโดยเฉพาะจากทางภาคอีสาน โดยเชื่อกันว่า ผีปอบคือผู้ที่มีวิชาไสยศาสตร์ มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้อำนาจอันเข้มขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำ เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอยเสกหนังควาย เสกตะปูเข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณ ภูตผีไปเข้าสิง

แต่ด้วยวิชาไสยศาสตร์เหล่านี้ก็มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ พระพุทธเจ้าทรงระบุว่า เป็นเดียรฉานวิชา จะต้องระวังไม่ให้ละเมิดข้อห้าม ข้อปฏิบัติโดยเด็ดขาด หากกระทำผิดข้อห้าม ชาวอีสานจะเรียกกันว่า "คะลำ" จะเกิดโทษหนักในข้อ "ผิดครู" วิญญาณบรมครู จะลงโทษ ให้กลายเป็น "ปอบ"

ปอบมีจริง??? หลวงปู่ดู่เล่า ครั้งหนึ่งเคยเกือบเรียน “วิชาปอบ” เพราะมีคนนำตำราผีปอบมาให้ จนมีควายตายปริศนา เผาตำราทิ้งแทบไม่ทัน!!

หรืออีกประการหนึ่งของผู้ที่กลายเป็นปอบก็คือ เล่นคาถาอาคมอย่างคลั่งไคล้ และใช้ความขลังแห่งวิชา มนต์ดำไปทำลาย ทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่กลัว บาปกลัวกรรมกระทำชั่วเป็นอาจิณกรรม กระทั่งถูกอาถรรพณ์ของไสยเวทย์ย้อนกลับมาเข้าตัวเองกลายเป็นปอบไปในที่สุด

เรื่องของผีปอบ ถึงแม้จะโด่งดังในภาคอีสาน ทว่าในภาคอื่นๆก็พบเช่นกัน ครั้งหนึ่งหลวงปู่ดู่ วัดสะแก แห่งพระนครศรีอยุธยา ได้พบกับผู้ที่มีวิชาปอบ ซึ่งดังนี้ ...

หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า "เป็นพวกลาว แถววัดตะโหนด พวกนี้เขามีวิชาทำลายของขลัง ของขลังใครก็ตาม ถ้าเขาจับแล้วแตกทุกราย รายของข้านี่เขาได้ไปแล้ว ก็เอาไปจับแต่ไม่แตก กลับขึ้นทิ่มหน้าทิ่มตาเสียหน้าแหกไปหมด" แสดงถึงอำนาจคุณพระกับอำนาจใฝ่ต่ำ ธรรมย่อมชนะอธรรม ผู้เขียนจึงเรียนถามต่อว่า แล้วเขาไม่โกรธเอาหรือครับ ท่านตอบว่า "โกรธ ซิ วันนั้นข้านั่งกรรมฐานรู้สึกว่าจิตใจเป็นอย่างไรไม่รู้ จึงเดินออกมาหน้ากุฏิ มองไปที่หลังคากุฏิ ตักน้ำมนต์สาดขึ้นไปได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะ แสดงว่าเขาคงทำมา กะเอาเราให้ตาย" ท่านพูดเสร็จแล้วก็หัวเราะ แถมยังเสริมอีกว่า "พวก ที่เรียนของเหล่านี้น่ะ เขาปรารถนาอเวจีเป็นที่พึ่งทั้งนั้น ต้องฆ่าพระหรือเณร ไม่ก็ฆ่าพ่อฆ่าแม่จึงจะขลัง ส่วนใหญ่มักจะฆ่าพระหรือเณร ข้าเองยังเกือบได้เรียนกับเขาเลย เขาเรียกว่า วิชาปอบ"

ปอบมีจริง??? หลวงปู่ดู่เล่า ครั้งหนึ่งเคยเกือบเรียน “วิชาปอบ” เพราะมีคนนำตำราผีปอบมาให้ จนมีควายตายปริศนา เผาตำราทิ้งแทบไม่ทัน!!

เมื่อท่านพูดจบลูกศิษย์ก็ซักว่า วิชาปอบเป็นอย่างไร เรียนได้หรือ ท่านจึงเล่าให้ฟังว่า "มี ลาวคนหนึ่ง เขามาที่วัดสะแก เขามาบอกข้าว่า ผมมีวิชาบิดไส้ บังฟันต้องการจะมอบให้ ผมมองยังไม่เห็นคนไหน จะเรียนได้นอกจากท่าน แน่ะ...ยอเราเสียด้วย ข้าก็รับเอาไว้ยังไม่ได้เรียน วางไว้บนหิ้งบูชาพร้อมเงิน ๑ สลึงเป็นค่าครู คืนแรก...ก็ฝันว่าออกไปจะกินควายกับเขา คืนที่สอง...ฝันว่าออกไปกินไส้ควาย ตอนเช้าเขามาบอกว่าควายบ้านที่ฝันนั้นตาย เลยนึกว่าวิชานี้ไม่ดีแน่ เดี๋ยวจะไปฆ่าคน ต้องเป็นวิชาปอบแน่ๆ ก็เลยเอาลงมาจากหิ้งไปเผาไฟ ลาวคนนั้นนอนอยู่หลังวัด เขารู้ตอนเดินผ่านกุฏิ ไม่ยอมมองหน้า ค้อนให้เสียด้วย เออ...เกือบไป เกือบได้เรียนวิชาปอบเสียแล้วเรา"

แสดง ว่าวิทยาการทางไสยดำนั้นมีจริง แต่เป็นไปในด้านของการทำลายล้างบุคคล ซึ่งจัดเป็นบาปอย่างยิ่ง พระอาจารย์ทางไสยดำนี้ ส่วนใหญ่เมื่อตายไปจะเป็นมหิทธิกาเปรต ซึ่งเป็นผลเศษกรรมจากบุคคลที่ เมื่อคราวเป็นมนุษย์ชอบเล่นของคุณไสยฝ่ายต่ำ

 

 

ที่มา : นิรทุกข์ รัตนจักร