มุกดาหาร - ชี้ช่องทางแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยถูกกฎหมาย จัดหางานแจง พ.ร.ก. คนต่างด้าว ต้องเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง (มีคลิป)

วันที่ 1 ก.ค. 2560 นายอารักษ์ ส่องแสง จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า  หลังจากที่พระราชกำหนด ( พ.ร.ก. ) บริหารการจัดการการทำงานคนต่างด้าว ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 23 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา สำนักงานจัดหางานจังหวัดได้รับนโยบายในเรื่องของการสร้างการรับรู้แก่นายจ้างสถานประกอบการในจังหวัดมุกดาหาร โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ออกไปสร้างการับรู้หน่วยหลักคือ การนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฏหมาย เพื่อให้ใช้ต่างด้าวได้ถูก ทางผู้ประกอบการในจังหวัดได้สอบถามที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน ในแต่ละวันจะมีผู้ประกอบการสนใจเป็นจำนวนมาก เพื่ออยากใช้แรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย

         

ขณะนี้แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มหลบหนีเข้าเมืองที่ได้รับการผ่อนผัน ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว จะมีบัตรสีชมพู และกลุ่มนำเข้ามาที่ได้ตกลงกับประเทศเพื่อบ้านกันไว้ ( MOU ) มี ประเทศเมียนมา  สปป.ลาว และประเทศกัมพูชา ซึ่งในจังหวัดมุกดาหารได้นำเข้ามาเป็นต่างด้าวจำนวน 112 คน และมีนายจ้างมายื่นเอกสารจำนวน 30 คน เพื่อขอนำเข้าต่างด้าวอีกประมาณ 67 คน  ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

            นายอารักษ์ ส่องแสง จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า  ผู้ประกอบการได้ ตื่นตระหนกของ พ.ร.ก. คนต่างด้าวมาก เข้าใจว่าเป็นบทกำหนดโทษ ได้รวมตัวกฎหมายตัวเก่า และกฎหมายตัวใหม่เข้าด้วยกัน เนื่องจากฉบับเก่าอาจจะมีข้อกฎหมายบางอย่าง ก็ได้มีการปรับให้มีความทันสมัยขึ้น และสร้างความรับผิดชอบของนายจ้างเพิ่มขึ้น  และให้นายจ้างได้แจ้งหน่วยงานราชการทราบทุกครั้งเมื่อคนต่างด้าวไม่อยู่กับเราแล้ว

ส่วนในกรณีที่นำเข้ามาได้มี 2 วิธี นายจ้างเป็นผู้ยื่นเรื่องขอนำเข้ามาเอง และบริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามา ปัจจุบันมีบริษัทจอทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางานมีจำนวน 81 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้วางหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้จำนวน 5 ล้านบาท กรณีที่เกิดมีการส่งกลับต่างด้าวเพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนการเปรียบเทียบของต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องและไม่ถูกต้องนั้น การลักลอบเข้ามาทำงานต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ  และสินค้าที่ได้จากแรงงานบังคับ ซึ่งเป็นผลเสียกับประเทศชาติ ก็ขอให้นายจ้างได้ตระหนักถึงแรงงานผิดกฎหมาย  ถ้าใช้แรงงานผิดกฎหมายประเทศชาติก็จะเสียหายไปด้วย ในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่นำเข้ามาถูกกฎหมาย ซึ่งได้ลงนามกับประเทศเพื่อนบ้านไว้แล้ว  สามารถอยู่ไดครั้งละ 2 ปี รวม 2 ครั้ง เป็น  4 ปี หลังจากนั้นก็สามารถพักผ่อนได้ 30 วัน ก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ นายจ้างสามารถแจ้งนำเข้าได้ตลอดเวลา ไม่มีกำหนดที่นำเข้าต่างด้าวเพื่อมาทำงาน

          ทั้งนี้กระทรวงแรงงานได้ออกประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 เป็นการปรับปรุงกฎหมายที่มีบทบัญญัติยังไม่ครอบคลุมการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวทั้งระบบ ได้แก่ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 และ พ.ร.ก.การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ.2559 โดยรวมกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเป็นฉบับเดียวเน้นการให้ความคุ้มครอง อำนวยความสะดวกให้กับทั้งนายจ้าง และแรงงานต่างด้าว การเพิ่มโทษนายจ้างที่กระทำผิดกฎหมาย พร้อมดึงประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานต่อไป...

ด้านนายภมร เชาว์ศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า หลังจัดหางานจังหวัดได้แจ้งให้ผู้ประกอบการทราบถึง พ.ร.ก.การบริหารการจัดการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ประกาศใช้ และมีบทลงโทษนายจ้างผู้ใช้แรงงานผิดกฎหมาย สูงถึง 8 แสนบาท ทั้งแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายจะมีโทษ จำคุก 5 ปี ปรับสูงสุด 100,000 บาท มาตรการนี้จะส่งผลกระทบการขาดแคลนแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ   แรงงานเหล่านี้ล้วนขับเคลื่อน GDP ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศของเรา ยิ่งขณะนี้เศรษฐกิจเราอยู่ในช่วงขาลง ผู้ประกอบการย่ำแย่ไปทุกแห่ง ถ้าแรงงานพวกนี้กลับไปบ้านเขาหมด ประเทศไทยเดือดร้อนแน่ ระบบเศรษฐกิจจะฟุบลงจากมาตรการนี้ มากกว่าได้ การประกาศใช้ พ.ร.ก.แรงงานใหม่ มีผลกระทบกับหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) งานกรรมกรก่อสร้าง และงานรับใช้ภายในบ้าน ส่วนใหญ่แล้วเป็นงานที่แรงงานไทยไม่ทำกัน อย่างไรก็ตามอยากวิงวอนให้รัฐบาลผ่อนผันในเรื่องการใช้แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ด้วย

          ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร  กล่าวต่อไปว่า โดยเฉพาะแรงงานตามฤดูกาลต่างๆ เปิดให้ผู้ประกอบการมีทางออกบ้าง อย่าซ้ำเติมเศรษฐกิจบ้านเราเลย รัฐบาลควรให้แรงงานที่ผิดกฎหมายขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง เป็นการหาเงินเข้ารัฐได้อีกทางหนึ่ง เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกแห่งก็อยากจะทำให้ถูกกฎหมาย เพียงอย่าเก็บค่าใช้จ่ายให้สูงนัก ถ้าอยู่ในเกณฑ์เดิมเชื่อว่าผู้ประกอบการเขาทำกันทุกคน อย่าลืมว่าแรงงานเหล่านี้พร้อมจะหนีกลับหรือไปทำงานที่อื่นทุกเมื่อ เพราะไม่มีหลักประกันว่าทำบัตรแล้วแรงงานต่างด้าวจะไม่หนีไปอยู่ที่อื่น หากผู้ประกอบการเสียค่าใช้จ่ายแล้วแรงงานหนีกลับบ้านหรือไปทำงานที่อื่น ก็ไม่สามารถเอาค่าทำบัตรคืนจากใครได้ ผู้ประกอบการจะประเมินว่าทำงานให้เขาได้มากน้อยเพียงใดคุ้มค่าทำบัตรให้หรือไม่ ถ้ารัฐเก็บแพงไปเขาก็ไม่ทำ ฉะนั้นก็ต้องพอไปพอมาผู้ประกอบการอยู่ได้ เศรษฐกิจบ้านเราอยู่รอด ทุกอย่างต้องเอื้อต่อกัน

 

อนุศักดิ์ เสาวภา  แสนวิเศษ /ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์มุกดาหาร