สนธิญาณ ชี้!!จับตา "ดร.สุรินทร์"ประกาศลงสมัครผู้ว่า กทม.กระแสตอบรับของประชาชนดี  แต่ปชป.จะมีมติหรือไม่น่าสงสัยเพราะชื่อชั้นนั้นชิงหัวหน้าพรร

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ สดลึกจริง ช่วง "ชนุตราถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณชนุตรา เพชรมูล ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ ชี้!!จับตา "ดร.สุรินทร์"ประกาศลงสมัครผู้ว่า กทม.กระแสตอบรับของประชาชนดี  แต่ปชป.จะมีมติหรือไม่น่าสงสัยเพราะชื่อชั้นนั้นชิงหัวหน้าพรรคได้!!!

                ชนุตรา : ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ออกมาประกาศที่จะลงสมัครผู้ว่า กทม.ค่ะ มันมีนัยยะหรือประเด็นอะไรแฝงเร้นเอาไว้ไหมคะ

                สนธิญาณ : นี่ซิ คุณชนุตรา ท่านผู้ชมครับ น่าแปลกแน่ล่ะครับ ยังไม่รู้เลยว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเนี่ยเมื่อไหร่ ใช่ไหมครับ เมื่อยังไม่มีระยะเวลา อย่างน้อยถ้าจะบอกว่าก่อนเลือกตั้งใหญ่ ก็โน่นแหละครับ ก็ปลายปี 61 นะ ก็ต้องใช้ระยะเวลาอีกปีครึ่งน่ะ พูดถึงว่านะ ถ้าจะประกาศตัวเนิ่นๆเพื่อจะหาเสียงก็ฟังพอมีเหตุผล แต่ถ้าเลือกหลังเลือกตั้งใหญ่ ก็อีก 2 ปี นะครับ ในระยะเวลายาวนานแบบนั้น แต่ในการออกมาประกาศของ ดร.สุรินทร์เนี่ยนะครับ ต้องถามว่าตอนนี้เนี่ยมีกระแสการตอบรับจากประชาชนดีไหม ดี กระแสตอบรับนี่ดีมากนะครับหลังจากที่ข่าวนี้ออกมาเนี่ย หมายความว่าในโลกโซเชียลเนี่ยก็แห่ชื่นชม แน่นอนครับคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นส.ส. 7 สมัย เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นเลขาอาเซียน 5 ปี หมายความว่าการทำงานเนี่ยนะครับอยู่ในระดับสากล ความสามารถก็ไม่ต้องพูดถึง แต่ความน่าสนใจเนี่ยนะครับต้องอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์นะครับ ถ้าจะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเวลาจะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์เนี่ยต้องใช้มติพรรคผ่านคณะกรรมการบริหาร การลงผู้ว่า กทม.ในแต่ละครั้งเนี่ยนะครับ ในพรรคมีการต่อสู้กันค่อนข้างหนักหน่วงนะ ครั้งที่ผ่านมาเนี่ยนะครับ มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เนี่ยนะครับ สู้กับคุณกรณ์ จาติกวณิช ท้ายสุด มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ชนะนะครับ ก็มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องพูดนะครับในสมัย มรว.สุขุมพันธ์เนี่ยตอนที่ได้เนี่ยนะครับ มันไม่ใช่ได้เพราะตัว มรว.สุขุมพันธ์น่ะ แล้วก็ไม่ใช่ด้วยเพราะกระแสพรรคด้วยนะ ผมเรียนถึงความรู้สึกของคนกรุงเทพมหานครในฐานะที่เลือก มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ก็เพราะไม่อยากให้อีกฝั่งนึงได้นะ มันก็มาจากกระแสที่ใช้กันมาเรื่อย ไม่เลือกเรา เขามาแน่ นะครับ แต่เที่ยวหน้าเนี่ยไม่ได้ เพราะว่าการบริหารกรุงเทพมหานครมาอย่างยาวนานของพรรคประชาธิปัตย์เนี่ยนะครับ มันทำให้ผู้คนก็ตั้งคำถามเหมือนกัน ว่าจู่ๆเนี่ยนะจะเลือกใครส่งๆมา ไม่นึกถึงจิตใจคนกรุงเทพมหานครเลย แล้วถ้ากระแสไม่เลือกเราเขามาแน่ มันไม่มีนะครับ มันก็ต้องมาสู้กันนะครับ คำว่าต้องมาสู้กัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคนก็ต้องคัดตัวเด็ดมา ที่ผมเรียนแบบนี้ก็เพื่อจะตั้งข้อสังเกตว่า ดร.สุรินทร์ประกาศอย่างนี้แล้วพรรคประชาธิปัตย์เขาจะส่งเหรอ เพราะทุกครั้งการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างที่จะรุนแรงนะครับ การเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างจะรุนแรง ก็ต้องมาดู และที่น่าสนใจคุณชนุตรา ท่านผู้ชมครับ ผมจะเล่าให้ฟังว่ามันมีข้อเท็จจริงในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเนี่ยนะครับ มีคนในพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งน่ะนะครับที่เชียร์พลเอกประยุทธ์นะ เหตุผลที่เชียร์พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่ว่าคนจำนวนนี้นะคลั่งไคล้เผด็จการทหาร เป็นนักเลือกตั้งแล้วเชียร์เผด็จการทหาร ไม่ใช่น่ะ คนจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ในเครือข่ายหรือคนที่อยู่ในกลุ่มของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นเอง คนกลุ่มนี้เห็นว่าคุณอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค เลือกตั้งไปก็แพ้ โอกาสก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาล ไม่ใช่ไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลเฉยๆ ถ้าเสียงประชาธิปัตย์กับเสียงเพื่อไทยมันล็อคกัน แล้วสองพรรคนี้ไม่จับมือกัน ซึ่งมันจับกันไมได้อยู่แล้ว ก็แน่นอนว่าจะทำให้เกิดสุญญากาศ นำพาไปสู่การให้พลเอกประยุทธ์ยุบสภาได้นะ เลือกตั้งกันใหม่ คิดว่ามันจะเหนื่อยนะในทางการเมืองเนี่ย แล้วก็สถานการณ์บ้านเมืองก็ไม่ได้สงบเรียบร้อยน่ะ หนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกเลยดีกว่า และก็จะอยู่ในสภาพที่ดีกว่าเดิมด้วย เพราะว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในแวดวงเฉพาะทหารหรือพรรคพวกที่มากันตั้งแต่ต้นแล้ว แต่จะมีอำนาจของส.ส.เข้าไปดุล ความตั้งใจดีของพลเอกประยุทธ์บวกด้วยการดุลอำนาจของส.ส. ก็จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินและอยู่ในกลไกการตรวจสอบค่อนข้างจะดี อันนี้เรียกว่าโมเดลนะ คุณชนุตรา ไอ้ โมเดลเนี่ยหลายคนก็อยากให้เกิด แต่คนที่ไม่เอาแน่นอนคือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงมีการเคลื่อนไหวกัน ไปพบปะคนโน้นคนนี้ ตามที่ทีนิวส์รายงานข่าวไปเมื่อซักครู่นี้ ย้ำนะ ดร.อาทิตย์ ดร.ศุภชัย ดร.สุรินทร์ สามคนนี้ต้องถือว่าถ้าโดยเกียรติภูมิแล้วไม่ได้ยิ่งไปกว่าคุณอภิสิทธิ์น่ะ บางคนเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ ประสบการณ์น่ะ ไม่ว่าจะเป็น ดร.ศุภชัย ดร.สุรินทร์ หรือ ดร.อาทิตย์เนี่ยนะ ประสบการณ์บริหารเนี่ย อย่าลืมว่าคุณอภิสิทธิ์เนี่ยนะจากโฆษก เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายก แล้วก็โดดมาเป็นหัวหน้าพรรค แล้วมาเป็นนายกรัฐมนตรีเลย แต่แต่ละคนเนี่ยการบริหารเนี่ยนะครับอีก 3 คนก็เพียบ ก็มีความเคลื่อนไหวนะ เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าข้อสรุปมันเป็นอย่างไร มันจะเดินไปทิศทางไหน เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ต้องจับตาดูแค่นั้นน่ะว่ากรณีของ ดร.สุรินทร์เนี่ยมันจะเกี่ยวข้องกับการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่ถามว่าถ้า ดร.สุรินทร์ลงนะครับ ผมว่าถึงไม่ลงประชาธิปัตย์นะ ถึงลงอิสระนะ กระแสก็สูง เพียงแต่ว่าเสียงมันจะไปเบียดกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นแหละครับ สำหรับพื้นฐาน ถ้าสองเสียงบวกกันได้ก็ดี และก็ถ้าพรรคประชาธิปัตย์นะเห็นแก่คนกรุงเทพมหานครนะ แล้ว ดร.สุรินทร์อยากลงจริง มีมติส่ง ก็ฉลุย แบบนั้น แล้วก็อาจจะไม่ไปกระทบกระเทือนกับการเมืองในพรรคด้วยหรือเปล่า เพราะตอนนี้ก็ต้องมาดู เขาเรียกว่ากระแสการสกัดกั้นหรือไม่ ก็มีคุณวัชระ เพชรทองก็ออกมาแพลมๆหน่อยนะ อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไป มันเป็นแบบนี้แหละครับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับย้ำ เพราะว่าเขาไม่ใช่เป็นพรรคของใครคนใดคนหนึ่งมันจึงเกิดแบบนี้นะครับ อันนี้ก็เป็นข้อดี ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปครับ