ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

โรงเรือนในพื้นที่ ครึ่งไร่ของ “ก๋งสับปะรดสี”  ของนายวรวิทย์ จันทร์ทอง อายุ 35  ปี ชื่อเล่นว่า ติ้บ เป็นชาวตราดโดยกำเนิด ที่ใช้เวลานานประมาณ 3 ปี จึงได้สับปะรดสีที่หลากหลาย  สีสัน สวยสด งดงามแบบนี้ 

          

 

นายวรวิทย์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเรียนจบด้านบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์  ทำงานในบริษัทเอกชน (สวนนงนุช ขอสงวนสถานที่ทำงานเก่า) ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์  จัดเก็บข้อมูลด้านพืชศาสตร์ กินเงินเดือน ๆ ละ 20,000  บาท มานาน 11  ปี และได้ลาออกเมื่อเดือนมิถุนายน 2560  ที่ผ่านมา  เพื่อมาทำสวนไม้ประดับ สวนสับปะรดสี และดูแลสวนให้เต็มที่ เพราะที่ผ่านมา 3 ปีที่ตนได้ทำการปลูกสวนสับปะรด ไม่มีเวลามาดูแลจะมาเฉพาะในช่วงที่ลูกค้าต้องการสับปะรดสี เท่านั้น จึงทำให้สวนไม่สวยงาม  รกไปด้วยหญ้าและใบที่แห้งเหี่ยวของต้นสับปะรดสี    

ทำสิ่งที่รัก!! หนุ่มวัย 35 ลาออกจากงานประจำทำสวนไม้ประดับ “สับปะรดสี”  ส่งขายทางเว็บไซต์ หลังทำเงินได้มากกว่าเงินเดือนถึง 3 เท่า (มีคลิป)

ทำสิ่งที่รัก!! หนุ่มวัย 35 ลาออกจากงานประจำทำสวนไม้ประดับ “สับปะรดสี”  ส่งขายทางเว็บไซต์ หลังทำเงินได้มากกว่าเงินเดือนถึง 3 เท่า (มีคลิป)

 “ผมได้เริ่มทดลองปลูกสับปะรดสี นี้มาประมาณ 3  ปี ช่วงแรก  ๆ  ได้ทำการซื้อสับปะรดสีมา 2-3  ต้น แล้วนำมาทำการแยกหน่อ  ขยายพันธุ์  ซึ่งการปลูกด้วยวิธีแยกหน่อไม่ยุ่งยาก ใช้กาบมะพร้าวเป็นวัสดุในการปลูก เนื่องจากสับปะรดสี เป็นพืชที่ใช้รากอากาศในการดูดซึมอาหาร เป็นไม้ที่ทนแดด ทนฝน ซึ่งแรกๆ เมื่อปลูกสับปะรดสี สำเร็จ  ก็มีการขายทางเวปไซด์ และติดต่อกันในกลุ่มเพื่อนที่ชอบและทำสวนสับปะรดสี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันทั้งในด้าน สายพันธ์   ซึ่งหลังจากที่ได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง  พบว่าสับปะรดสี  มีมากกมายถึง 3,000 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิด มีความสวยงาม โดยใบของสับปะรดสีจะมีหลากหลายสีสัน  เมื่อนำมาจัดสวนจะทำให้ได้สีที่เป็นธรรมชาติ”   

ทำสิ่งที่รัก!! หนุ่มวัย 35 ลาออกจากงานประจำทำสวนไม้ประดับ “สับปะรดสี”  ส่งขายทางเว็บไซต์ หลังทำเงินได้มากกว่าเงินเดือนถึง 3 เท่า (มีคลิป)

“ช่วงแรกที่ผมทำ สามารถสร้างรายได้ให้มากกว่าเงินเดือนประจำ 2-3  เท่า   ทำให้มองเห็นว่าน่าจะทำเป็นอาชีพเสริมได้ จึงได้เริ่มทำมาตลอด  และตลอดเวลา 3 ปี เสียงตอบรับจากลูกค้า ทั้งคนไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและจีนที่ในความสนใจไม้ประดับชนิดนี้มาก เนื่องจากเป็นไม้ประดับที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว การจัดส่งไม่ยุ่งยาก และเมื่อส่งไปถึงมือลูกค้าไม่พบว่าสับปะรดสีจะเสียหายหรือตาย หลังจากที่มีผลตอบรับได้ดี ผมจึงลาออกจากงานที่ทำมา 11 ปีเมื่อมิถุนายน 2560  ที่ผ่านมา เพื่อกลับมาดูแลสวนสับปะรดสี หลังจากที่ปล่อยไม่ค่อยได้ดูแลมากนัก ทำให้มีวัชพืช รวมทั้งต้นสับปะรดสีไม่ได้มีการดูแลตัดแต่งใบที่แห้งเหี่ยวออก เมื่อตนเองมีเวลามากขึ้นโดยไม่ต้องห่วงงานประจำแล้ว จึงใช้เวลาที่มีอยู่ดูแลจัดสวนสับปะรดสีให้สวยงามน่ามองอย่างที่เห็น”          

ทำสิ่งที่รัก!! หนุ่มวัย 35 ลาออกจากงานประจำทำสวนไม้ประดับ “สับปะรดสี”  ส่งขายทางเว็บไซต์ หลังทำเงินได้มากกว่าเงินเดือนถึง 3 เท่า (มีคลิป)

นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า สับปะรดสี ที่จริงแล้วเป็นพืชประเภทไม้ประดับที่มีความนิยมที่ภูเรือ เพชรบูรณ์ และที่กรุงเทพฯ  ตนเองมองเห็นว่าพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ที่ถูกตั้งให้เป็นเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงคิดทำสวนสับปะรดสีอย่างจริงจัง หลังจากออกจากงานแล้วจะทำการปลูกสับปะรดสี ให้มีชนิดและสายพันธ์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง อาจจะมีการเพาะและผสมพันธุ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้นพร้อมกันนี้ จะมีโครงการขยายพื้นที่ปลูกให้มากกว่านี้ โดยปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นของพี่สาวซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ  ให้ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูก ตนเองจึงตั้งชื่อว่า สวนก๋งสับปะรดสี ก๋งคือพ่อของพี่สาวเจ้าของพื้นที่ ปัจจุบัน สับปะรดสีที่สวน มีประมาณ 100 ชนิดสายพันธ์ ส่วนการดูแลสับปะรดสี  ไม่ยุ่งยากทุกๆปีต้องเปลี่ยนวัสดุปลูกคือกาบมะพร้าว เพื่อป้องกันมิให้เกิดโรคเชื้อรา หรือรากเน่าได้  ส่วนการดูแล การรดน้ำเพียงวันละครั้งก็เพียงพอแล้ว   และถ้าวันไหนฝนตกก็ไม่ต้องรด “

ทำสิ่งที่รัก!! หนุ่มวัย 35 ลาออกจากงานประจำทำสวนไม้ประดับ “สับปะรดสี”  ส่งขายทางเว็บไซต์ หลังทำเงินได้มากกว่าเงินเดือนถึง 3 เท่า (มีคลิป)

นายวรวิทย์  กล่าวทิ้งท้ายว่า  สับปะรดสีใคร ๆก็เรียนรู้กันได้ เป็นอีกอาชีพที่น่าจับตาและยึดเป็นอาชีพได้ แม้แต่เด็กๆ ก็สามารถปลูกสับปะรดสี เพื่อเป็นอาชีพเสริม  ตอนนี้ตลาดภายในประเทศอาจยังไม่มาก แต่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการเพราะสับปะรดสี  สามารถนำจัดส่งถึงลูกค้าได้โดยไม่เสียหาย  โดยจะมีวิธีการล้างรากให้สะอาด ห่อด้วยหนังสือพิมพ์แล้วส่งไป ลูกค้าเมื่อได้รับก็สามารถนำลงภาชนะสำหรับปลูกได้เลย  อนาคตคิดว่าสับปะรดสีเหล่านี้น่าจะเป็นไม้ประดับเศรษฐกิจได้อีกชนิดของบ้านเรา ถือเป็นอีกบทของการพิสูจน์ว่า การเรียนแม้ไม่ตรงกับสายการศึกษาที่เรียนมา แต่สามารถพัฒนาต่อยอดความรู้จากสิ่งที่ตัวเองทำเกษตรกรยุค 4.0   สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในสาขาที่เรียน ไม่ต้องจบด้านการเกษตรก็ประสบความสำเร็จได้หากมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ

ภาพ/ข่าว กฤษฎาพงษ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์