ทุกอย่างยังคงตราตรึงใจ!! ย้อนวันวาน..เปิดเรื่องราวคำสอนของ "ป๋าเดียร์" ที่ถ่ายทอดให้ "ศรราม" ยึดเป็นแบบอย่าง อ่านแล้วก็คิดถึงซึ้งน้ำตาไหล!?

นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของพระเอกชื่อดังอย่าง "ศรราม เทพพิทักษ์" ที่ได้สูญเสียคุณพ่อ "ป๋าเดียร์" ชุมพร เทพพิทักษ์ ไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเมื่อช่วงค่ำ(9 ก.ค.) ผ่านมา โดยพระเอกหนุ่ม-ศรราม ได้โพสต์ภาพคุณพ่อพร้อมแจ้งข่าวว่า "ขออนุญาตแจ้งผู้มีพระคุณทุกท่านให้ทราบครับว่า "ป๋าชุมพร (เดียร์ ) เทพพิทักษ์ " ถึงแก่กรรมแล้วครับผม ....พิธีรดน้ำศพจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 10 กค.เวลา 16.00 น. และสวดอภิธรรมศพ เวลา 18.30 น. ณ.ศาลาปิยชาติ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จึงเรียนมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ขอบพระคุณครับผม #รักหม่าม้ามากกว่าชีวิต#ไอ้หมา @sornramfanclub"

 

 

ซึ่งเป็นการสูญเสียที่อยากจะทำใจ แต่เชื่อเหลือเกินว่าคุณพ่อชุมพร ได้จากไปอย่างสงบและหมดห่วง วันนี้เราจึงอยากจะย้อนวันวาน นำเรื่องราวลึกซึ้ง..กินใจ ของคู่พ่อลูกผูกพัน โดยเป็นเรื่องราวคำสอนที่ "ป๋าเดียร์" มักจะพูดและสอน พร้อมทั้งปฏิบัติเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ได้เจริญรอยตาม ในทุกๆ คำสอน ถูกถ่ายทอดผ่านคำบอกเล่าของพระเอกหนุ่ม ในแบบฉบับ "หนุนตักฟังเรื่องเล่า กับ ศรราม เทพพิทักษ์ (ตอนที่ 2) "

โดยสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข  967027 ได้รวบรวมเนื้อหาจากนิตยสารในบางช่วงบางตอนมาให้อ่านดังนี้ 

เรื่องเล่าของคุณพ่อชุมพร-หนุ่ม ศรราม ยึดต้นแบบจากลุงเชษฐ์ มิตร ชัยบัญชา

 

ขอบคุณเรื่องราวความผูกพันน่ารักๆ ของพ่อลูก ป๋าชุมพร และพี่หนุ่ม ศรราม และความประทับใจจากที่ได้อ่านเรื่องเล่าถึงลุงเชษฐ์ มิตร ชัยบัญชา อดีตพระเอกดังยุคพ่อแม่จขกท. 
ซึ่งน่าสนใจมากค่ะ

 

หนุนตักฟังเรื่องเล่า กับ ศรราม เทพพิทักษ์ (ตอนที่ 2) 

 

- เดินตามรอยเท้าพ่อ ปรากฏว่าเส้นทางชีวิตผมเหมือนเดินรอยตามป๋าทั้งหมดเลย สมัยป๋าเป็นหนุ่มเล่นฟุตบอลดารา ผมโตขึ้นเข้าวงการบันเทิงก็เล่นฟุตบอลดาราเหมือนกัน เส้นทางมันพลิกมาก เพราะเมื่อก่อนผมไม่ชอบเลย กองถ่ายทำให้พ่อหายไปจากชีวิตเรา ก่อนหน้านั้นมีทั้งอาหง่าว–ยุทธนา มุกดาสนิท หม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) มา บอกป๋า ขอลูกไปเล่นหนังหน่อย ป๋าบอกเลยมันไม่เล่น ซึ่งไม่ได้บอกว่าไม่ให้เล่นด้วยนะ (ยิ้ม)

 

 

-วันหนึ่งแม่ไม่สบาย ผมคิดว่าต้องทำยังไงดีที่จะช่วยเหลือครอบครัวได้ เฮ้ย ลองหาสตางค์เองหน่อยเว้ย นึกถึงโมเดลลิ่งที่เคยให้นามบัตรผมไว้เมื่อสองปีก่อน เลยแอบไปถ่ายโฆษณา ไม่บอกป๋ากับแม่ เอาสตางค์มาจ่ายค่าเทอมเอง แล้วก็ฟลุกมีชื่อเสียงขึ้นมา เป็นสิ่งที่ถือว่าเราโชคดีกว่าคนอื่นที่มีโอกาสได้ตอบแทนพ่อแม่เร็ว

-แม่เน้นในเรื่องดูแลความเป็นอยู่ทุกข์สุข อาหารการกิน พูดเลยว่าแม่เป็นคนประหยัดมาก สอนให้มัธยัสถ์ เป็นคนที่คอยเตือนเรา เป็นคนที่ตีผม คอยห้ามปรามไม่ให้เราโลดโผนโจนทะยาน ความฝันของเด็กหนุ่มวัยมัธยมที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และกำลังตัดสินใจเลือกระหว่างไปพัฒนาฝีเท้าที่ต่างประเทศหรือเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองไทย ก็เลยหักออกจากเป้าหมายเดิมเข้าสู่วงการบันเทิง และกลายเป็นเดินตามรอยเท้าผู้เป็นพ่อเต็มตัวในที่สุด

 

 

- คำพร่ำสอนหรือจะสู้ต้นแบบที่ดีงาม หลังจากผมเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง สิ่งที่ป๋าทำเป็นตัวอย่างแล้วเราได้เห็น ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่เป็นผู้มีพระคุณของเรา นั่นคือลุงเชษฐ์–มิตร ชัยบัญชา ป๋าเป็นผู้ร้าย ลุงเชษฐ์เป็นพระเอก แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นเพื่อนรักกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน ป๋าเห็นว่า สิ่งต่างๆ ที่ลุงเชษฐ์ทำน่ะดี จึงอบรมผมให้ผมทำสิ่งเหล่านั้น เวลาลุงเชษฐ์เล่นหนัง ถ้ามีดาราอาวุโสเล่นด้วยแล้วไม่ให้ค่าตัวเขา ลุงเชษฐ์จะไม่ไปเปิดกล้องให้ หรือลุงเชษฐ์มาถึงกองปุ๊บตักข้าวแกงกินเหมือนคนอื่น (ปกติในกองถ่าย นักแสดงจะมีสำรับอาหารจัดให้แยกต่างหากจากทีมงาน) บางทีซื้อกับข้าวมาฝากเด็กยกไฟในกองถ่าย ชวนให้กินด้วยกัน ป๋าก็บอกผมทางอ้อมให้ทำอย่างนี้บ้าง

 

 

-จนวันหนึ่งที่ผมถ่ายหนังไปได้ 2-3 เรื่อง เริ่มมีชื่อเสียง ป๋าก็สั่งว่ากลับบ้านซื้อแกงส้มกับกล้วยน้ำว้ามาด้วยนะ และบอกให้ขึ้นไปไหว้คุณลุงซะเพราะลุงเขาดูแลเราอยู่ ที่บ้านมีโกศของลุงเชษฐ์อยู่ และป๋าไหว้อยู่ทุกวัน อย่างศาลที่พัทยาตรงจุดที่ลุงเชษฐ์เสียชีวิต เวลาผ่านไปทางนั้นเราจะเข้าไปไหว้เสมอ

 

 

-คุณพ่อชุมพรเล่าเสริมว่า อยากให้ลูกทำตามแบบมิตร อะไรที่ดีเราก็ชี้ให้เขาเห็น มิตรเขาเป็นนายทหาร เป็นคนรักระเบียบวินัย นัดกองเช้า ได้ถ่ายเย็น มิตรเขา ก็ไม่บ่น มีแต่ให้ บางทีเขาไปช่วยคนยกรีเฟล็กซ์ บางทีเอาอาหารไปให้เด็กกอง เอาใจใส่หรือทำนู่นทำนี่ให้ แบบนี้เขาเรียกสอนทางอ้อมไง ไม่ใช่ไปบอกว่าคุณต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ การบอกตรงๆ มันไม่มีประโยชน์

 

 

- เป็นลูกผู้ชายต้องดูแลแม่ - 

 

"ทุกวันนี้ถึงแม้ภารกิจการงานยังรัดตัว และต้องดูแล งานผลิตรายการโทรทัศน์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฤทธิราม จำกัด แต่พระเอกหนุ่มก็ยังไม่ทิ้ง หน้าที่ดูแลครอบครัวบุพการี ถือเป็นงานประจำที่ต้องทำตลอดชีวิต"

 

"ป๋าสอนผมว่า ถ้าใครถามว่ารักพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ให้ตอบว่ารักเท่ากัน แต่ห่วงแม่มากกว่า เพราะว่าแม่เป็นผู้หญิง เป็นลูกผู้ชายต้องดูแลแม่ ส่วนป๋าเป็นลูกผู้ชายเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงกัน ให้ห่วงสุภาพสตรีดีกว่า"

 

บางทีตื่นมาแทนที่จะออกไปถ่ายงานเลย เห็นแม่อุตส่าห์ต้มข้าวต้มไว้ให้กับปลาสลิด อ่ะ กินสักหน่อย ส่วนป๋ากับผมอาชีพเดียวกัน เวลาว่างที่จะเจอกันค่อนข้างยาก ป๋าอยู่กองหนึ่ง ผมอยู่อีกกองหนึ่ง แต่สื่อสารถึงกันตลอด ถ้าว่างก็นัดกัน บางทีถ้าเวลามีน้อยจริงๆ แค่ขับรถผ่านแล้วแวะมาเจอกัน เอาสะดวกเป็นหลักนะครับ แต่ดูแลกันมาตลอด มีเรื่องหนึ่งนะ ประมาณว่าถ้าป๋ากำลังคิดถึงผมอยู่ ผมจะโทร.เข้าไปตอนนั้นพอดี หรือบางทีผมนั่งรถตู้กองถ่ายกลับบ้าน กำลังคิดถึงป๋าอยู่ ป๋าจะโทร.เข้ามาเอง เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบ่อยมาก 

 

มีอยู่คำหนึ่งที่ป๋าใช้กับผมเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น ตอนคุยโทรศัพท์ เจอหน้ารับประทานข้าวกัน แล้วจะแยกกัน หรือจะเขียนหนังสือถึงก็ตาม ป๋าจะลงท้ายด้วยคำนี้เสมอ“นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าปลอดภัย ไม่มีทางเป็นอะไร เพราะคำติดปากของป๋าที่พูดกับผมเสมอว่า

 

"โชคดีนะไอ้หมา"

 

 

ขอบคุณภาพจาก :  "Sornram TheappitaK SFC" , pantip.com

เครดิต : "คอลัมน์หนุนตักฟังเรื่องเล่า นิตยสาร O-lunla ฉบับเดือนมกราคม 2559"