สนธิญาณ ชี้!! จับตาดู "ไพศาล"วิเคาระห์"เพื่อไทยเสนอ จับมือปชป."ดัน"อภิสิทธิ์"นั่งนายกฯ ผนึกกำลังฝ่ายประชาธิปไตยกันทหารออกจากอำนาจ?? ขอแค่เก้

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ สดลึกจริง ช่วง "ชนุตราถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณชนุตรา เพชรมูล ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ ชี้!! จับตาดู "ไพศาล"วิเคาระห์"เพื่อไทยเสนอ จับมือปชป."ดัน"อภิสิทธิ์"นั่งนายกฯ ผนึกกำลังฝ่ายประชาธิปไตยกันทหารออกจากอำนาจ?? ขอแค่เก้าอี้รองนายกฝ่ายเศรษฐกิจโชว์ฝีมือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เห็น!!

                ชนุตรา : จากเมื่อช่วงที่แล้วค่ะที่คุณไพศาล พืชมงคล ระบุเอาไว้ว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจะรวมตัวกันแล้วก็จะดันให้นายอภิสิทธิ์มานั่งเป็นนายกฯ อันนี้จะมีความเป็นไปได้ทางการเมืองมากน้อยแค่ไหนคะ คุณสนธิญาณคะ

                สนธิญาณ : ก็ถือว่าเป็นประเด็นทางการเมืองที่น่าจะคิดนะครับ สำหรับทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย เราต้องย้อนรอยกลับไปดูความเป็นจริงของการเมืองในระบบการเลือกตั้งกันก่อนนะครับว่า พรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณเขามั่นใจว่าเขาสามารถคุมที่นั่ง ส.ส. ทั่วทั้งประเทศ ให้ได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ได้ ซึ่งอันดับ 1 นั้นจะถึงขนาดเกินครึ่งหรือไม่เกินครึ่งก็ตามแต่ แต่เขาเป็นที่ 1 แน่นอน ชนะพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ตามที่ผมได้เรียนย้ำมากี่ครั้งกี่หนแล้วครับว่า ชัยชนะจริงๆที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเขาชนะพรรคประชาธิปัตย์ไป 100 ที่นั่ง ดังนั้นพื้นที่อื่นๆที่เหลือเนี่ย พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถที่จะไปเอามาดึงถ่วงกับภาคอีสานได้ เว้นแต่พรรคประชาธิปัตย์ไปแบ่งที่นั่งพรรคเพื่อไทยทางภาคอีสานมาได้ซัก 50 ที่ ซึ่งไม่น่าที่จะเป็นไปได้ ทีนี้พรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตรเนี่ยนะครับ ความมั่นใจดังกล่าวนะครับ เราจะเห็นว่าเมื่อก่อนเนี่ย ยึดไป คมช.สมัยพลเอก สนธิ ยึดไป เดี๋ยวเลือกตั้งก็กลับมาเป็นรัฐบาลอยู่ดี ทนๆไปหน่อย ในสมัย คมช.และรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ก็ไม่เอาจริงเอาจังนะ เข้ามาคั่นเวลา เพื่อที่จะส่งต่อสู่ระบบประชาธิปไตย เท่ากับว่าบ้านเมืองก็กลับมามีปัญหาอีกนะครับ หลังการเลือกตั้งเห็นไหมครับ พรรคพลังประชาชนได้รับชัยชนะ คุณสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรี พอเกิดปัญหา พรรคภูมิใจไทย โดยเนวิน ชิดชอบ แยกตัวมาจากพรรคเพื่อไทย พลิก ตัวใหม่มาหนุน คุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เราจึงได้ยินเสียงของ นปช.และพรรคเพื่อไทย ประสาน เคลื่อนไหว ให้มีการยุบสภา โจมตีว่า โอ๊ย รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ชอบธรรม ตั้งกันไปค่ายทหาร ซึ่งเป็นประเด็นเงื่อนไขที่เอามาโจมตี ในความเป็นจริงจะตั้งกันที่ไหนก็ตามแต่มันอยู่ที่เสียงในสภาที่หนุนให้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีให้มีความชอบธรรม สมบูรณ์แบบ แต่การเปิดประเด็นแบบนี้ก็เพื่อที่จะใช้ในการเคลื่อนไหวนะครับ และเป็นที่มาจนเกิดการชุมนุมใหญ่เมื่อปี 2553 จนมีคนบาดเจ็บล้มตาย ทั้งสิ้นทั้งปวงก็เพื่อกดดันให้คุณอภิสิทธิ์ยุบสภา คุณอภิสิทธิ์ไม่ยุบสภาตอนนั้น แต่ต่อมาก็ยุบสภา ทั้งๆที่หลายคนบอกว่ารอให้หมดวาระ แต่คุณอภิสิทธิ์เป็นนักประชาธิปไตยนะครับ ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน แต่เพราะแนวทางการเลือกตั้งมันชัดอยู่แล้ว การคุมพื้นที่มันชัดอยู่แล้ว พรรคเพื่อไทยก็ชนะหลุดลุ่ย กลับมาเป็นรัฐบาลเหมือนเดิม จนต้องเกิดมวลมหาประชาชนแล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดนะครับ คนประท้วงกันแล้วก็นำพามาสู่การยึดอำนาจของ คสช. คสช.เนี่ยอันนี้ระบอบทักษิณและคุณทักษิณรู้ว่าไม่เหมือนเดิมแล้วคุณชนุตรา เพราะว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 เนี่ย กำหนดไว้ชัดเจนเลย ว่า 5 ปีแรก หลังการเลือกตั้งทั่วไป การจะเลือกนายกรัฐมนตรีเนี่ยนะให้วุฒิสมาชิก 250 คน มีสิทธิ์เลือก นั่นหมายความว่า วุฒิสมาชิก 250 คน ส.ส. อีก 500 คน เป็น 750 คน วุฒิสมาชิก 1 ใน 3 ถ้าวุฒิเลือกใคร คนนั้นเท่านั้นถึงจะได้เป็นนายกฯ เว้นแต่ว่า ส.ส.ในสภาจับมือกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าพรรคใหญ่ 2 พรรค คือพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ซึ่ง 2 พรรค ผลการเลือกตั้งออกมา 300 เสียงขึ้น จะต้องจับมือกัน คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะว่าเมื่อเพื่อไทยชนะ  พรรคประชาธิปัตย์แพ้ เพื่อไทยมาชวนประชาธิปัตย์จับมือ คุณจตุพรออกมาพูด คนในพรรคเพื่อไทยก็ออกมาพูดว่าจับมือกัน ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันต้านทหาร แต่สิ่งที่คุณไพศาลเปิดออกมาเนี่ยคุณชนุตรา มันเป็นมุมใหม่นะ เพื่อไทยชวนจับมือ แต่ให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ น่ะ เปิดประเด็นมาแบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าถ้ามันเป็นแบบนี้จริงๆ คุณอภิสิทธิ์จะคิดยังไง เพราะคุณอภิสิทธิ์ยึดเอาหลักการประชาธิปไตยเป็นหลักน่ะ ก็เหมือนตอนยุบสภา เลือกตั้งที่เขาบอกว่า อย่ายุบๆก่อน เพื่อไทยยังเข้มแข็งอยู่นะ เพื่อไทยยังคุมเสียงได้ คุณอภิสิทธิ์ก็ ไม่ได้ คืนอำนาจให้ประชาชน เป็นการปฏิบัติตามหลักการนะ ถือว่าด้านนึงก็น่าชื่นชมน่ะ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องนึง มาถึงข้อเสนอแบบที่คุณไพศาลว่าเข้าไปน่าจะอึ้ง เพราะคุณไพศาลยังเปิดเผยต่อว่า ที่เพื่อไทยเขาจะเข้ามาเป็นแค่รองนายกฝ่ายเศรษฐกิจนะ ซึ่งผมเรียนเลยถ้าดูแบบนี้ก็หมายความว่า จะเข้ามาโชว์ โชว์ฝีมือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ทำไม่สำเร็จ เพราะว่ารอไป 4-5 ปี ก็กลับคืนสู่รูปเดิม เพื่อไทยก็คืนอำนาจได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด นี่ก็เสียสละเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ นี่คือสิ่งที่คุณไพศาลว่า มันจึงทำให้เกิดการวิเคราะห์ต่อไปว่าเป็นแบบนี้ คุณไพศาลจึงบอกว่าเพื่อไทยจะไม่มีการเอาคนในตระกูลชินวัตรมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว เพื่อให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบงำของตระกูลชินวัตรแล้ว เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายประชาธิปไตยก็จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่น่ารังเกียจอะไร อันนี้คือสิ่งที่คุณไพศาลว่า เพราะฉะนั้นชื่อของคุณมณฑาทิพย์ที่โผล่เข้ามาว่าถ้าตามแนวคุณไพศาลก็ไม่น่าจะใช่ แต่คุณไพศาลก็เลยเหมือนกับใบ้ไปกลายๆว่าจะเป็นคุณหญิงหน่อย หรือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งได้พยายามแสดงบทบาทอยู่ในขณะนี้ ส่วนจะจริงหรือไม่จริงนะครับก็ต้องติดตามไป ระยะเวลาอาจจะดูเหมือนว่ายังอีกนาน แต่การเมืองมันเชื่อมตั้งแต่ตอนนี้นะครับท่านผู้ชมครับ แผนการทางการเมือง การวางแผนทุกสิ่งทุกอย่างในขณะนี้ โน่น ไปอยู่หลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2561 อย่างแน่นอน