สนธิญาณ ชี้!!พรรคการเมืองต้องมาจากประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ใช่ตั้งพรรคแล้วไปหาสมาชิก "Primary Vote"ทำให้สมาชิกเป็นเจ้าของพรรคการเมือ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ สดลึกจริง ช่วง "ชนุตราถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณชนุตรา เพชรมูล ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ ชี้!!พรรคการเมืองต้องมาจากประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ใช่ตั้งพรรคแล้วไปหาสมาชิก "Primary Vote"ทำให้สมาชิกเป็นเจ้าของพรรคการเมือง ย้ำ!!นี่แหละวิถีประชาธิปไตยที่นักเลือกเรียกร้องกันหนักหนา

                ชนุตรา : คงจะเป็นประเด็นเรื่อง Primary Vote ค่ะ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันแล้ว กรธ. กับพลเอกสมเจตน์นะคะ อย่างนี้แล้วค่ะ อนาคตทางการเมืองของพรรคการเมืองค่ะ ถ้าหากว่า Primary Vote สำเร็จในประเทศไทยนะคะ ต่อแต่นี้พรรคการเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไปคะ

                สนธิญาณ : ครับ ต้องถือว่าวันนี้นะครับ การปฏิรูปการเมืองของประเทศไทยเนี่ยได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้หลังจากที่ สนช.นะครับได้มีการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติพรรคการเมืองที่ร่างมาแล้วมันก็เกิดเป็นประเด็นคำถามกันมาตลอดว่า สถานการณ์ทางการเมืองระหว่าง กรธ.และ สนช.นั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยลงตัวกันซักเท่าไหร่นะ ถ้าเรากลับไปดูบรรยากาศวันนั้น คุณชนุตราจำได้ไหม ดูเหมือนว่าเอ๊ะ กรธ.จะเห็นว่ามันปฏิบัติยากนะ มันไม่น่าที่จะเป็นไปได้นะ น่าจะเอาแค่ที่ กรธ.ร่างไว้ แต่ปรากฏว่าเนี่ยนะครับ เมื่อได้มีการพูดคุยกันจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นเนี่ยเราต้องสามารถที่จะเห็นจากท่าทีของท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธ์นะครับ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการที่จะปฏิรูปการเมืองของประเทศเราเนี่ย ได้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยนะครับกับพลเอกสมเจตน์ บุญถนอม เป็นการส่วนตัวกันนะครับว่าทิศทางมันควรจะเป็นอย่างไร มันควรจะปรับเข้าสู่ภาคปฏิบัติได้อย่างไร จนในที่สุดเนี่ยนะครับ เมื่อวันพฤหัสกับวันศุกร์ที่ผ่านมาเนี่ย ก็ต้องถือว่าทาง กรธ.เนี่ยได้เชิญพลเอกสมเจตน์ไปคุยอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้เป็นทางการนะครับ แต่เชิญพลเอกสมเจตน์คนเดียวนะ เพราะถือว่าอยู่ในขั้นตอนของ กรธ. ยังไม่ได้เป็นขั้นตอนที่จะทำร่วมกันนะครับ ดังนั้นเนี่ยการไปพูดคุย การชี้แจงของพลเอกสมเจตน์กับกรธ.ทั้งคณะเนี่ยนะครับ มันก็ปรากฏว่าได้เกิดผลสรุปที่เราสามารถสรุปได้ดังนี้เลย นะครับว่า วันนี้ระบบ Primary Vote ต้องเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วอย่างแน่นอน หลีกเลี่ยงไมได้ เป็นอย่างอื่นไม่ได้ อันนี้ชัดเจน ส่วนวิธีการปฏิบัตินะครับจะปฏิบัติกันอย่างไรนั้น ก็คิดว่าการแลกเปลี่ยนกันระหว่างพลเอกสมเจตน์กับกรธ.เนี่ยนะครับ นำพามาสู่ข้อสรุปที่ดีและก็รัดกุมมากที่สุดนะครับ ผมย้ำเลยว่า Primary Vote ต้องมาจากสมาชิกพรรคนะครับที่จะเป็นผู้นำเสนอและเป็นผู้ที่คัดเลือก กรรมการบริหารพรรคก็ยังมีอยู่ กกต.นะครับไม่สามารถเข้ามาตัดสิทธิ์ได้เหมือนกับที่พูด มันจึงทำให้การเลือก Primary Vote ไม่ไปลากโยงกับการเลือกตั้งระดับประเทศที่จะทำให้เกิดการชะล้าง ทำให้เกิดการถ่วง หรือทำให้สร้างกระบวนการการมีปัญหาขึ้น เพราะดังนั้นนะครับวันนี้เนี่ยนะครับ พรรคการเมืองทั้งหลายนะครับควรจะต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน ผมเรียนอย่างนี้ ควรจะต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนแล้วว่า ความหมายที่เวลาคุณอ้างว่าอย่างคุณนิพิฏฐ์พูดไว้ซักครู่น่ะ โอ๊ยสมาชิกพรรคไม่มามีส่วนร่วมอย่างโน้นอย่างนี้ ไอ้นั่นเป็นเรื่องที่ผิดในหลักการประชาธิปไตยทั้งสิ้นนะ คุณชอบอ้างเป็นนักประชาธิปไตยกันเนี่ย พรรคการเมืองเนี่ยมันต้องก่อตั้งและเริ่มจากประชาชนที่มีความคิดทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช่จัดการบริหารเฉพาะพวกคุณกลุ่มใดกลุ่มนึง ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แล้วก็มาหาสมาชิกพรรคการเมืองว่าเห็นด้วยกับคุณไหม ไม่ใช่อย่างนั้น พรรคการเมืองต้องเป็นของประชาชน ประชาชนมีส่วนร่วม ไอ้ที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นพรรคการเมืองจริง มันมีแต่เพียงชื่อที่คุณแอบอ้างเท่านั้นว่าเป็นพรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องมาจากพรรคประชาชนที่มีแนวอุดมการณ์และแนวความคิดเดียวกันก่อรูปเป็นพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นถ้าพรรคการเมืองที่ไม่มีสมาชิกเข้ามามีส่วนร่วม สมาชิกไม่มีความรู้สึกร่วมกัน อันนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคการเมือง เป็นแต่เพียงกฎหมายกำหนดแล้วก็พวกคุณไม่กี่คน สิบคนยี่สิบคนหรือคนตระกูลเดียวกันเท่านั้นที่ผูกและเกาะกันอยู่ เพราะฉะนั้นอันนี้คือวิถีของประชาธิปไตยที่คุณเรียกร้องกันหนักหนา ที่นำพาไปสู่การเลือกตั้ง การเลือกตั้งเนี่ยนะมันจะต้องเริ่มจากพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนทางตรงก็คือเริ่มต้นจากพรรคการเมืองที่ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของ ซึ่งที่ผ่านมาสมาชิกเขาไม่ได้ไปมีส่วนร่วม ไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง เขาไปทำที่บอกว่าอ้อมๆน่ะ มันไม่ได้มีผลทางกฎหมาย มันมีผลทางกฎหมาย ส่วนประเด็นที่มาพูดว่าต่อไปจะมีการซื้อเสียงพรรคการเมืองไหนปล่อยให้มีการซื้อเสียงแม้แต่ในระดับพื้นฐานก็ไม่สมควรจะเป็นพรรคการเมืองต่อแล้ว ไม่มีประสิทธิภาพ ไร้อุดมการณ์ ไร้คุณภาพ นะครับ มีแต่โทษคนอื่น ไม่เคยหันกลับมามองตัวเอง ต้องดูให้ชัดเจนครับว่าข้อเท็จจริงมันจะเริ่มต้นจากประชาชนเท่านั้น เพราะฉะนั้นวันนี้นะครับนับจากนี้ไป จะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมมาธิการร่วมทั้งสามฝ่ายนะครับ ทิศทางค่อนข้างที่จะฉลุยแล้วนะครับ เราก็กลับมาดูเนื้อหาการปรับเปลี่ยนความเป็นไปนะครับในทางการเมืองของประเทศไทยที่จะเริ่มต้นเป็นการปฏิรูปทางการเมืองแล้วเริ่มจากพื้นฐานพรรคการเมือง ดูว่าจะได้ผลขนาดไหน ก็อยู่ที่คนไทยเราที่จะมีส่วนร่วมกับระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่พื้นฐานอย่างไร