เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด

#สานต่อที่พ่อทำ

สมัยก่อนมีปัญหาที่ชาวบ้าน จ.นราธิวาส เผชิญมานานคือป่าพรุซึ่งเป็นแอ่งน้ำจืดที่มีน้ำขังจนดินเป็นกรดจนเพาะปลูกอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ อ.บาเจาะ ที่มีป่าพรุมากเป็นพิเศษ
ในหลวง ร.9 จึงทรงเข้าไปช่วยเหลือ โดยรับสั่งให้ไขน้ำออกจากพรุ แต่ก็ทำให้ทรงพบว่าปัญหาที่แท้จริงที่ทำให้พืชผลเพาะปลูกไม่ได้นั้นเกิดจากดินเปรี้ยวมีความเป็นกรดสูงต่างหาก ครั้งหนึ่งในหลวงถึงกับทรงเดินลงไปในพรุแล้วทรงวักน้ำขึ้นมาชิมเพื่อให้ทราบว่าเปรี้ยวเพียงใด แล้วตรัสด้วยว่าหากแก้ปัญหานี้ได้ประชาชนจะมีที่ทำกินอีกประมาณแสนไร่ ดังนั้นใน พ.ศ. 2525 จึงโปรดฯ ให้สร้าง ‘ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง’ เพื่อแก้ปัญหานี้

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :บทสรุปจากการทรงงาน“โครงการพระราชดำริเขาเต่า”ทรงบอกและให้อะไรมากมายแก่คนไทย และก่อเกิดนับพันกว่าโครงการถัดมา ลองมาทำความเข้าใจกับบทสรุปกัน

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด
ทรงคิดหาวิธีแก้ไขอยู่ถึง 2 ปีเต็ม ในที่สุดทรงมีรับสั่งกับอาจารย์สิทธิลาภ วสุวัต อดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินว่า “..เราแกล้งดินกันไหม แกล้งให้มันเปรี้ยวถึงที่สุด แล้วก็หาวิธีทำให้มันหายเปรี้ยว…” เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดดินเปรี้ยวจะได้แก้ที่ต้นเหตุ
เริ่มแรก ในหลวงโปรดฯ ให้แบ่งที่ดินเป็น 6 แปลง จากนั้นให้สูบน้ำเข้าออกสลับกัน โดยอิงกับฤดูกาลในพื้นที่ ปกติแล้วภาคใต้จะมีฤดูฝน 8 เดือน และฤดูร้อน 4 เดือน แต่ทรงให้ย่นระยะเวลาลงด้วยการสูบน้ำให้ท่วมขัง 3 เดือน และปั๊มน้ำจนแห้งสนิทแล้วทิ้งไว้ 1 เดือน ทำเช่นนี้อยู่ 5-6 เที่ยว สารกำมะถันที่อยู่ในดินจะโดนอากาศมากกว่าปกติจนปล่อยกรดออกมา ดินจะเปรี้ยวขึ้น และถ้าปลูกอะไรแล้วตายหมดแสดงว่าเปรี้ยวถึงที่สุดแล้ว
จากนั้นก็ทรงโปรดฯ ให้แต่ละแปลงทดลองทำให้ดินหายเปรี้ยวด้วยวิธีแตกต่างกัน อาทิ ใช้น้ำอย่างเดียวชะล้างกรด ใช้ปูนอย่างเดียว ใช้น้ำกับปูนร่วมกัน หรือปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติ เป็นต้น ผลคือแปลงที่ใช้น้ำชะล้างร่วมกับการใช้หินปูนฝุ่นนั้นดีที่สุด ใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็ปลูกข้าวได้ ในหลวงจึงทรงให้นำไปทดลองในพื้นที่ ต.โคกอิฐ-โคกใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่ดินเปรี้ยวมาก ผลปรากฏว่าจากที่ปลูกข้าวแทบไม่ขึ้น กลับกลายเป็นพื้นที่เหลืองอร่ามไปด้วยรวงข้าว

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :สุขทั้งแผ่นดิน!! โครงการพระราชดำริ ๗๐ ปีแห่งการครองราชย์ ใต้ร่มพระบารมีของพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก (ชมคลิป)

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด
ในหลวงทรงดีใจมาก ดังที่ตรัสว่า “เราเคยมาโคกอิฐ-โคกใน มาดูเขาชี้ตรงนั้นๆ เขาทำนาได้แค่ 5 ถัง 10 ถัง แต่ตอนนี้ได้ขึ้นไปถึง 40-50 ถัง ก็ใช้ได้แล้ว... อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมากที่ใช้งานได้ แล้วชาวบ้านเขาก็ดีขึ้น แต่ก่อนชาวบ้านเขาต้องซื้อข้าวกิน เดี๋ยวนี้เขามีข้าวอาจจะขายได้”
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของในหลวง ไม่ใช่การทำเพื่อพระองค์เอง...แต่เพื่อให้ชาวบ้านมีกิน
#สานต่อที่พ่อทำ  เรียบเรียงจาก   สัมภาษณ์ ว่าที่ ร.ท.ดิลก ศิริวัลลภ ล่ามภาษายาวีประจำพระองค์ วันที่ 12 พ.ย. 2559, 
หนังสือร้อยเรื่องเล่า : เกร็ดการทรงงาน และหนังสือประวัติศาสตร์ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยสำนักงาน กปร.,  หนังสือแม่อยากให้เธออยู่กับดิน
ที่มา : FB เพจสานต่อที่พ่อทำ

เผยที่มาพระราชดำรัสในหลวง ร.9 "อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก" เพราะทรงรักประชาชนของพระองค์ ทรงวักน้ำจากพรุดินขึ้นชิมจนแก้ปัญหาได้ถูกจุด
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของ ร.๙ ... สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เตรียมเสด็จ เปิดโครงการพระราชดำริคลองภักดีรำไพ