ล่าระทึกแก๊งทมิฬ!!!“จนท.”ล็อกเป้า"อดีตคนมีสีฝึกยุทธวิธีทหาร"ย้อนเหตุบุกจับ“16แก๊งอดีตทหารพราน”คุมสวนปาล์มกระบี่ยึดปืน20กระบอกกระสุน1,000นัด?

จากกรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งแบ่งหน้าที่ให้ชุดคลี่คลายคดีฆ่า 8 ศพใน จังหวัดกระบี่ โดยแบ่งกำลังข่าวซุ้มมือปืนตามจังหวัดต่างๆ ทั้ง ชุมพร ระนอง ตรัง พังงา และนครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดต่างๆได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบหาเบาะแสกลุ่มมือปืนที่คาดว่าจะรับงานนี้ โดยให้น้ำหนักไปที่กลุ่มทหารนอกรีตและอดีตทหารนอกราชการ ซึ่งจากพฤติกรรมเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มกองกำลังเฝ้าสวนปาล์ม-สวนยาง ให้นายทุนในกระบี่ และพังงา เนื่องจากลักษณะกายแต่งกายที่คล้ายทหารมากทั้งเสื้อเกราะ หมวกเหล็ก รองเท้าบู๊ท และอาวุธปืนที่ใช้

       “พฤติกรรมการก่อเหตุและยุทธวิธีการเข้าตรวจค้น เฝ้าตรึงพื้นที่ก็คล้ายคนที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลกรณีได้เข้าจับกุมตัวอดีตครูฝึกจากมณฑลทหารบกที่ 43 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช พร้อมอดีตทหารพรานรวม 16 คน ยึดของกลางอาวุธปืน 19 กระบอก และกระสุนเกือบ 1,000 นัด เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หลังกำลังดังกล่าวได้รับจ้างจากนายทุนรายใหญ่ในกระบี่ เข้าปิดล้อมข่มขู่กลุ่มชาวบ้านเรียกร้องที่ดินทำกินภายในสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมจังหวัดกระบี่ (ส.ป.ก.) ประกาศเพิกถอนเอกสารสิทธิครอบครอง ส.ป.ก. 4-01 มาตรวจสอบ”

       ย้อนไปเมื่อวันที่20เมษายน 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรกระบี่ เจ้าหน้าที่ทหาร กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ควบคุมตัว นายเชษฐา แก้วอินทร์ อายุ 43 ปี ชาวตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ พร้อมพวก รวม 16 คน ส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารพราน พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 9 กระบอก เป็นของอาสารักษาความสงบหมู่บ้าน ตำบลกระบี่น้อย อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 10 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ จำนวนมาก วิทยุสื่อสาร มาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรกระบี่

 

       ทั้งนี้พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รองผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้ภายในสวนปาล์มน้ำมัน ของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด พื้นที่หมู่ 4 ตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คน พร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อมกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องที่ดินทำกินที่เข้าปักหลักอาศัยอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมจังหวัดกระบี่ (ส.ป.ก.) ประกาศเพิกถอนเอกสารสิทธิครอบครอง ส.ป.ก. 4-01 หลังจากตรวจสอบพบว่าบริษัทเอกชนใช้คนงานเป็นผู้ถือครองแทนลักษณะนอมินีเมื่อปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงทำประโยชน์เก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันมาอย่างต่อเนื่อง

       ก่อนหน้านี้ได้สอบสวน นายเชษฐา แก้วอินทร์ อายุ 43 ปี หัวหน้ากลุ่มอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้มาคุ้มกันคนงานของบริษัทที่เข้าเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่ เพื่อป้องกันกลุ่มชาวบ้านผู้เรียกร้องที่ดินทำกินที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปาล์มน้ำมันเข้าขัดขวางไม่ให้คนงานตัดผลปาล์ม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร พกพา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

       ทั้งนี้พ.ต.ท.จุมพล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวกับทีมข่าว DeepsTnews ว่าได้สั่งดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมดไปแล้วโดยแยกเป็น2ข้อหา คืออั้งยี่ซ่องโจร และความผิดตามพรบ.อาวุธปืน มีเพียง1คนเท่านั้นที่มีเพียงอาวุธมีด ซึ่งจาการตรวจสอบอาวุธปืนทั้งหมดบางส่วนจดทะเบียนถูกต้อง และมีบางส่วนที่ต้องนำมาสอบสวนต่อในการหาเจ้าของที่ให้อาวุธปืนดังกล่าวมาใช้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนแล้วปรากฏว่า ปืนทั้งหมด ผู้ต้องหาไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่มีผู้ที่ให้มาใช้ในงานนี้

       อย่างไรก็ตามสำหรับนายเชษฐา แก้วอินทร์ อายุ 43 ปีเป็นอดีตครูฝึกและพลอาสาสมัครสังกัด มณฑลทหารบก ที่43 ฯ  ขณะที่นายมโน เครือแก้ว ผู้ใหญ่บ้านม.3 ต.กระบี่น้อย ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มจำกัด ได้นำเอกสารหลักฐาน พร้อมหลักทรัพย์ วงเงิน จำนวนกว่า1.8ล้านบาท  เพื่อติดต่อขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง16 คน เพื่อต่อสู้คดี    โดยกล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง16คนเป็นผู้บริสุทธิ์ ได้รับการว่าจ้างให้เข้ามาดูแลพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มฯในพื้นที่ม.9 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มไร้ที่ทำกินเข้ายึดสวนปาล์มเข้ามายึดพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ และยืนยันว่าจุดที่กลุ่มผู้ต้องหาเข้าไปนั้น อยู่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธ์ของบริษัทฯไม่ได้อยู่ในเขตสปก.แต่อย่างใด และที่ผ่านมาได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บุกรุกที่อ้างตัวว่าไม่มีที่ทำกินไปแล้วซึ่งจะนำหลักฐานทั้งหมดเข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ด้วย

 

 

 

ขอบคุณภาพ : เพจติดตามการปฏิรูปประเทศกับหมอชูชัย