- 15 ก.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด Facebook : Deeps News
นับเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา กับปฏิบัติการสุดโหดร้าย เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 6-7 คน แต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหารพร้อมอาวุธ เข้าไปก่อเหตุในบ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยการใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย
ถึงนาทีนี้ดูเหมือนกระบวนการสืบสวนล่าตัวคนกระทำผิด เริ่มเข้มข้นมากขึ้นจากจุดเริ่มต้นว่าด้วยสาเหตุของใบสั่งตาย จนมาถึงร่องรอยการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้าย ซึ่งทิ้งคำพูดให้ทุกฝ่ายเชื่อว่าผลประโยชน์ว่าด้วยก้อนเงินมหาศาล คือชนวนทำให้นายวรยุทธต้องถูกสังหารโหด และมีผู้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงต้องมารับผลจากการกระทำอันป่าเถื่อนครั้งนี้ด้วย จนทำให้คดีนี้ถูกำชับจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีเพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายเร็วที่สุด
จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมามีรายงานข่าว ว่า มีการตรวจพบรถยนต์โตโยต้ายาริส ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ภายในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และมีการยึดไว้พร้อมนำตรวจสอบที่ค่าย มทบ.41
(ขอบคุณภาพ : สำนักข่าวไทย)
ในเวลาใกล้เคียงกันมีรายงานข่าวตรงกันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เดินทางกลับมากรุงเทพมหานคร เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ได้บินด่วนกลับไปที่จังหวัดกระบี่อีกครั้ง เนื่องจากมีข้อมูลว่าชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้ 1 ราย และมีการควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ค่าย ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่
ขณะที่ในเวลาต่อมารายงานข่าวเพิ่มเติมว่า การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจทหารตามมาตรา 44 โดยคำสั่งหัวหน้าคสช. จึงไม่ต้องขออนุมัติหมายจับจากศาล รวมทั้งมีรายละเอียดว่าการควบคุมผู้ต้องสงสัยดังกล่าวอาจมีจำนวนถึง 3- 4 คน และบางส่วนให้การรับสารภาพว่าร่วมกระทำผิดในครั้งนี้แล้วด้วย
ล่าสุดมีรายงานด่วนว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ยอมรับว่าเดินทางกลับยังจังหวัดกระบี่อีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมระบุว่าได้รับข้อมูลจากชุดสืบสวนว่าสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุสังหารหมู่ 8 ศพ ได้แล้วจำนวนหนึ่งและกำลังเร่งสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องในการก่อเหตุเพิ่มเติม (โดยรายละเอียดทั้งหมดสามารถติดตามการรายงานสดผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ก ทีนิวส์ได้เป็นระยะๆ )