พระผู้น้อยเดือดร้อน !?!? "ไพบูลย์" เผยต้นเหตุทุจริตเงินทอนวัดเกิดมาตั้งแต่ปี 2505...ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ลองอ่านดูเลย (รายละเอียด

พระผู้น้อยเดือดร้อน !?!? "ไพบูลย์" เผยต้นเหตุทุจริตเงินทอนวัดเกิดมาตั้งแต่ปี 2505...ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ลองอ่านดูเลย (รายละเอียด)

"ไพบูลย์" ชี้ปัญหาเงินทอนวัด มาจากระบบการปกครองคณะสงฆ์ พศ 2505 !!เจ้าอาวาสต่างจัง พระผู้น้อย ถูกกดขี่ข่มเหงขอให้ช่วยร่าง พรบคณะสงฆ์ ฉบับ " ธรรมาธิปไตย" แก้ไขปัญหาโดยด่ว

17 ก.ค.2560 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ 
(สปช.) และอดีตสมาชิกวุฒิสภาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าเห็นว่า ต้นเหตุที่มีการทุจริตเงินทอนวัด เกิดจากระบบการปกครองคณะสงฆ์ใช้มาตั้งแต่ปี 2505  ทำให้พระภิกษุผู้ใหญ่ชั้นปกครอง ทั้งสมเด็จและรองสมเด็จทั้งหลายมีอำนาจเสร็จเด็ดขาด หลงในลาภยศสรรเสริญ ใช้อำนาจโดยไม่โปร่งใส จนขยายแหล่งผลประโยชน์ไปเอางบประมาณแผ่นดินมาใช้ตามอำเภอใจ จนเรื่องแดงขึ้นมาถูกตรวจสอบจึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก แทนที่จะแก้ไขทำให้เรื่องนี้โปร่งใส กลับพยายามข่มขู่ คุกคาม กดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตรวจสอบ 

แต่เพราะเป็นกระแสข่าว"เงินทอน"ที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศสนใจ ช้างตายทั้งตัวจะเอาใบบัวมาปิดคงจะไม่ได้ การเอาผิดคนที่กระทำผิดทั้งข้าราชการสำนักพุทธและที่เป็นพระภิกษุชั้นปกครอง ต้องทำอย่างจริงจัง ใครผิดก็ว่ากันตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เกิดความโปร่งใส ต้องเดินหน้าต่อไป ขณะนี้พุทธศาสนิกชนทั้งประเทศจึงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปคณะสงฆ์กันขนานใหญ่

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า และประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวัดและพระภิกษุชั้นผู้น้อยที่ทนไม่ได้ กับการปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับชั้นตาม พรบ คณะสงฆ์ ที่ใชัมาตั้งแต่ปี 2505  ในปัจจุบันมีการส่งพระภิกษุนักวิ่งเต้น ข้ามเขตเข้าไปเป็นเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาสหาประโยชน์ในทางมิชอบ มีทั้งกดขี่ กลั่นแกล้งและมีการเรียก"เก็บส่วย" กันทั้งประเทศ ล่าสุด เกิดขึ้นที่วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี จนพระชั้นผู้น้อยและเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวัด ทนระบบการปกครองรวบอำนาจ ซื้อขายตำแหน่งกันแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป จึงมีพระภิกษุเรียกร้องให้ ตนยกร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ ให้เป็นไปตามหลัก" ธรรมาธิปไตย"

ร่างกฏหมายใหม่ให้ พระภิกษุแต่ละวัดแต่ละอำเภอแต่ละจังหวัดเลือกพระภิกษุในวัด อำเภอหรือจังหวัดนั้นๆ จำนวน 5-10 รูปเป็นคณะสงฆ์วัด คณะปกครองสงฆ์อำเภอ และ คณะปกครองสงฆ์จังหวัด แทนให้พระภิกษุเพียงรูปเดียวมีอำนาจเสร็จเด็ตขาดอย่างปัจจุบัน และส่งตัวแทนจากคณะสงฆ์จังหวัดไป เป็นคณะปกครองสงฆ์ส่วนกลางระดับประเทศ เป็นระบบธรรมาธิปไตยให้มหาเถรสมาคมเป็นคณะที่ปรึกษาสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงบัญชาคณะปกครองสงฆ์ทั้งหมด 

ร่างกฏหมายใหม่เพื่อแก้ไขพระภิกษุชั้นปกครองตั้งแต่ระดับ กรรมการ มส ไล่ลงไปเจ้าคณะต่างๆที่ขณะนี้มีปัญหาทั้งระบบ ส่วนใหญ่มีวัตรปฏิบัติ ที่ไม่อยู่ในพระธรรมวินัยเสียเอง แต่มีอำนาจเสร็จเด็ดขาด ปกปิดความผิด เอื้อประโยชน์ในทางมิชอบให้แก่ตนเองและพระภิกษุไกล้ชิด กดขี่ข่มเหงเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวัดและพระชั้นผู้น้อย ไม่ให้มีปากมีเสียง จนทำให้คณะสงฆ์ทั้งหมดเกิดความเสียหาย สูญเสียศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ

หากร่างกฏหมาย พรบ คณะสงฆ์ ฉบับ "ธรรมาธิปไตย"ยกร่างเสร็จแล้ว จะส่งไปรับฟังความคิดเห็น เจ้าอาวาสวัดต่างๆและพระภิกษุชั้นผู้น้อยทั้งประเทศ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป หากมีเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนและเห็นด้วย จะผลักดันให้เป็นกฏหมายใช้บังคับต่อไป