- 17 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ร.ต.ท.ญิง สุพัตรา ราษฎร์นิยม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงวัย 50 กระโดดน้ำบริเวณเขื่อน หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ช่วงหน้าอาคารศาลาประชาคม ตรงข้ามองค์พระสมุทรเจดีย์ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และนักประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุบริเวณริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ได้ชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูอยู่ทึ่ท่าน้ำดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่หญิงสาววัย 50 ปีที่มีอาการทางประสาทปีนข้ามรั้วและกระโดดหายลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากที่ญาติได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ และกำลังเดินเพื่อที่จะกลับบ้านพักในย่านซอยวัดด่านสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
จากการสอบถามนางสาวสุดา โอมพรนุวัตน์ อายุ 45 ปี น้องสาวของหญิงที่กระโดดหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เล่าว่า หญิงสาวที่กระโดดหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อ นางสาวลัดดา อังสุกรานต์ อายุ 50 ปึซึ่งเป็นพี่สาวของตน ที่ป่วยมีอาการทางประสาทซึ่งป่วยมาหลายปี โดนก่อนเกิดเหตุนางสาวลัดดา อาการทางประสาทได้กำเริบมาได้ 2-3 วันแล้วเนื่องจากมีอาการหวาดระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย วันนี้ตนจึงพามาหาหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ หลังแพทย์ดูอาการแล้วให้ยากลับมาทานที่บ้านและอนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน โดยที่ตนและพี่สาวได้นั่งรถประจำทางปรับอากาศสาย 145 เพื่อที่จะกลับบ้านพักในย่านสำโรงเหนือ ในระหว่างที่รถวิ่งผ่านตลาดปากน้ำซึ่งการจราจรติดขัด จังหวะที่รถวิ่งมาจอดนิ่งอยู่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีชาวบ้านที่นั่งมาในรถจะลงที่บริเวณดังกล่าวคนขับรถประจำทางจึงได้เปิดประตูรถให้ลง แต่ปรากฎว่าพี่สาวของตนที่มีอาการทางประสาทได้เดินปะปนกับชาวบ้านที่เดินลงจากรถ ตนมาเห็นอีกที่พบว่าพี่สาวตนเดินเข้าไปทางหน้าศาลากลางจังหวัดแล้ว ตนจึงรีบลงจากรถวิ่งตามมา แต่พอวิ่งมาถึงริมเขื่อนหน้าศาลากลางได้เห็นพี่สาวของตนปีนขึ้นไปอยู่บนกระถางต้นไม้ที่วางอยู่ติดกับราวเหล็กกั้นริมเขื่อน ก่อนที่จะย่อตัวและกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ตนรีบวิ่งมาดูแต่ไม่พบพี่สาวแล้วพี่สาวตนได้จมหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพัก สภ.เมือง สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัด พรัอมประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิมให้ประสานนักประดาน้ำมาช่วยงมหา
โดยนางสาวสุดา ยังได้เล่าอีกว่า เมื่อก่อนนี้พี่สาวตนทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงแรมชื่อดังในย่านกรุงทเพมหานคร ต่อมาเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมาพี่สาวตนได้ป่วยมีอาการทางประสาทและมีอาการหลอนหวาดระแวงว่ามีคนจะมาทำร้าย ตนจึงให้พี่สาวลาออกจากงานและส่งตัวไปรักษาทึ่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา จนอาการดีขึ้น จึงรับกลับมาอยู่ที่บ้าน และเมื่อช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาเพื่อนข้างบ้านได้ชวนพี่สาวตนไปบวชชีพราหมณ์ หลังจากกลับมาที่บ้านอาการของพี่สาวตนก็ได้กำเริบขึ้นมาอีกคาดว่าในระหว่างที่ไปบวชชีพราหมณ์พี่สาวตนน่าจะไม่ได้กินยา อาการจึงกำเริบขึ้นมาอีก ตนจึงพามาพบหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ ระหว่างเดินทางกลับบ้านก็มาเกิดเหตุดังกล่าว
เวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมงที่นักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ และตำรวจน้ำกว่า 10 นายที่ลงไปช่วยกันงมหาร่างของนางสาวลัดดา ที่กระโดดจมหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามองค์พระสมุทรเจดีย์ แต่ยังไม่มีวีแววว่าจะพบร่างของนางสาวลัดดาแต่อย่างไร แม้ว่าทางญาติและเจ้าหน้าที่จะจุดธูปกราบไหว้พระแม่ธรณีที่ริมแม่น้ำเจ้าพระเพื่อให้พบแต่ก็ยังไร้วี่แวว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าคดี ได้ลงบันทึกประจำวันไใเป็นหลักฐานว่าหญิงคนดังกล่าวอาการทางประสาทอาจกำเริบและได้กระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยตัวเองและจมหายไป อย่างไรก็ตามนักประดาของมูลนิธิและตำรวจน้ำยังคงพยายาลงงมหาร่างของนางสาวลัดดา ต่อไปท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลอย่างแรงเนื่องจากเป็นช่วงที่กระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังไหลลงออกปากอ่าวไทย
ภาพ/ข่าว ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สมุทรปราการ