อนาถชีวิต!! พ่อเฒ่าวัย 68 และลูกชายวัย 16 อาศัยอยู่ได้ใต้ซากปรักหักพัง ผญบ.นำคณะสื่อฯเมืองคอนลุยช่วย เร่งระดมทุนสร้างบ้านหลังใหม่ (คลิป)

วันที่ 17 ก.ค. 2560  จากกรณีที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือครอบครัวของนายวิรัช แก้วหนู อายุ 68  ปี  127/1  หมู่ 5  ต.บางจาก  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช  ที่ยากไร้อาศัยอยู่กับพงศ์พันธ์  แก้วหนู อายุ 16 ปี บุตรชาย ในเพิกพักเล็ก ๆ มีสิ่งของเครื่องใช้เพียงไม่กี่ชิ้น ได้รับความลำบากเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จึงอยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการระดมธารน้ำใจช่วยเหลือให้พ้นความแร้นแค้น

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวานนี้  (17 ก.ค.) นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานด้านศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะสื่อมวลชนได้เดินทางนำเครื่องอุปโภคบริโภคเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของนายวิรัตน์ โดยมีนายสุมล อักษรพาลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งคอยอำนวยความสะดวกนำทางไปยังบ้านของนายวิรัช โดยอยู่ห่างจากถนนสายบ้านบางใหญ่ ซอย 9 บางจาก ต.บางจาก ประมาณ 150 เมตร  โดยจะต้องเดินข้ามสะพานไม้ต้นเดียวข้ามไปอย่างบากลำบาก ก่อนจะเดินลุยป่าละเมาะเข้าไปอีกว่า 100 เมตร โดยพบว่าเส้นทางเดินปกติมีน้ำท่วมขังและเต็มไปด้วยโคลนตม นายสุมล และชาวบ้าน จึงพาคณะสื่อมวลชนเดินลุยพงหญ้าเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งซึ่งไม่โดนน้ำท่วมขัง แต่บางจุดยังมีโคลนตมอยู่บ้างทำให้คณะสื่อมวลชนเดินไปอย่างทุลักทุเล

ซึ่งเมื่อเข้าไปถึงคณะสื่อมวลชนถึงกับตะลึงไม่คิดว่าสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าใต้พุ่มต้นไทรจะเป็นบ้านพักของมนุษย์ เพราะบ้านที่ว่าเป็นเพียงกระท่อมเล็ก ๆที่ตัวกระท่อมและพื้นชำรุดอย่างหนัก หลังคาพังลงมากองทับระเกะระกะจนแทบไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ โดนมีช่องใต้ซากปรักหักพังพอที่จะคลานเข้าไปซุกหัวนอนได้  ใต้ซากปรักหักพังพบมีข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไม่กี่ชิ้น  รอบ ๆ ซากกระท่อมดังกล่าวมีน้ำท่วมขังเต็มไปด้วยโคลนตม ภายในซากกระท่อมพบแมว 1 ตัว ส่วนใต้ซากกระท่อมยังพบสุนัข 1 ตัวส่งเสียงเห่ากรรโชกตลอดเวลา  ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร พบส้วมซึ่งมีเฉพาะหัวส้วมวางอยู่บนปล้องปูนซิเมนต์ ไม่มีสิ่งปกปิดใด ๆ แม้แต่น้อย อย่างก็ตามไม่พบผู้ใดอยู่ที่บ้าน ทราบว่านายวิรัตน์ ออกไปทำงานรับจ้างนอกหมู่บ้าน ส่วนลูกชาย ทราบชื่อนายพงศ์พันธ์  แก้วหนู หรือ“น้องเขียด” อายุ 16 ปี ไปโรงเรียนโดยเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนตรีนิมิตรวิทยา หมู่ 1 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ห่างออกไปประมาณ 6 กม.

นายสุมล อักษรพาลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก กล่าวว่า ในอดีตนายวิรัช แก้วหนู เป็นคนมีฐานะมาก่อน แต่เกิดปัญหาครอบครัวตกยากภรรยา จึงได้แยกทางไปโดยลูกอีก 2 คน ได้ไปอาศัยอยู่กับภรรยา นายวิรัช  จึงอาศัยอยู่กับ “น้องเขียด” บุตรชายคนสุดท้อง แต่นายวิรัช  สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงยึดอาชีพรับจ้างทั่วไปมีรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ จนต่อมาบ้านที่อาศัยเกิดชำรุดพังทลาย นายวิรัช และเพื่อนบ้านจึงช่วยกันปรับปรุงสร้างกระท่อมอยู่อาศัยจนกระท่อมชำรุดและพังลงมาอีกตามสภาพที่เห็น นายวิรัช และ “น้องเขียด “ลูกชายต้องอาศัยอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ในปัจจุบันช่วงกลางคืนน้องเขียดได้มาขออาศัยหลับนอนบ้านญาติริมถนน ส่วนนายวิรัตน์ จะอาศัยหลับนอนใต้ซกปรักหักพังดังกล่าวมาโดยตลอด

“ที่ผ่านมาตนพร้อมด้วยนายบำรุง เลขจิตร กำนัน ต.บางจาก พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้านบางใหญ่ และองค์การบริหารส่วนตำบลบางจากได้เข้าเยี่ยมช่วยเหลือเป็นประจำ ล่าสุดตนและกำนันได้เสนอของบไปยังสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเพื่อสร้างบ้านให้นายวิรัตน์ ซึ่งได้งบมาประมาณ 30,000 บาท นำมาจัดซื้อวัสดุก่อสร้างประมาณ 25,000 บาท ยังเหลือเงินสดอีก 5,000 บาท โดยวัสดุก่อสร้างประกอบด้วย เสา อิฐ หิน ปูนทราย นำมาไว้กำนันเรียบร้อยแล้ว  แต่มีปัญหาหรือพื้นที่ก่อสร้างเพราะการขนย้ายวัสดุก่อสร้างเข้าไปยังบ้านเก้าที่ชำรุดทรุดโทรมค่อยข้างลำบาก ต้องข้ามสะพานไม้ต้นเดียวและต้องเดินลุยน้ำลุยโคลนเข้าไป  ทางนายวิรัช  จึงเคลียร์กับญาติ ๆ ที่อยู่ริมถนนซอยบางจากซอย 9 เพื่อขอพื้นที่สร้างบ้านเล็ก ๆ เพียงเพื่อให้พออาศัยอยู่ได้สองคนพ่อลูก โดยทราบว่าทางญาติ ๆ ตกลงให้สร้างบ้านในพื้นที่ใหม่ได้แล้ว และกำลังจะระดมกำลังชาวบ้านมาช่วยกันสร้างบ้านให้นายวิรัตน์ ได้อยู่อาศัยในเร็ว ๆ นี้

นายบำรุง เลขจิตร กำนัน ต.บางจาก กล่าวว่า  ที่ผ่านมาตนได้ทำเรื่องการสร้างบ้านให้ครอบครัวที่ยากจน เข้าโครงการปรับปรุงซ่อมแซมและก่อสร้างบ้านให้ครอบครัวที่ยากจนขององค์การบริหารส่วนตำบลบางจาก ผ่านมติของคณะกรรมการแต่ละหมู่บ้าน และผ่านมติสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบางจากกว่า 20 หลัง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จหมดแล้วเหลือบ้านนายวิรัช ที่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ก่อสร้างเพราะหากก่อสร้างที่เดิมการขนย้ายวัสดุก่อสร้างเข้าไปยากเย็นมาก แต่ในขณะนี้ตนได้เจรจาเคลียร์กับญาติของนายวิรัช เพื่อขอสร้างบ้านในพื้นที่ใหม่ริมถนนจนตกลงกันได้แล้ว จะเริมดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตามหากได้รับการบริจาคงบประมาณเพิ่ม ตนจะเป็นคนออกแบบขยายบ้านให้ใหญ่และได้มาตรฐานมากขึ้น ส่วน นายพงศ์พันธ์  แก้วหนู“น้องเขียด”ลูกชายนายวิรัช  เป็นเด็กที่มีนิสัยดีมาก ขยันเรียนและมีผลการเรียนดีเยี่ยม ตนได้ทำเรื่องขอทุนการศึกษาจนได้รับทุนมาตลอด

 “ล่าสุดได้เสนอขอทุนในโครงการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อจบ ม.6 จะได้รับทุนเรียนต่อจนจบปริญญาตรีทราบว่าผ่านการพิจารณาและได้รับการคัดเลือกแล้วเช่นกัน หากผู้ใจบุญต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือสร้างบ้านให้นายวิรัช  และน้องเขียด บุตรชาย โอนเงินช่วยเหลือได้ผ่านธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “คณะกรรมการหมู่บ้านบางใหญ่”  เลขบัญชี 801-0-63356-9”  กำนัน ต.บางจากกล่าวในที่สุด”.

ภาพ/ข่าว  นวรัตน์  อินทศิลา   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.นครศรีธรรมราช