ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560)" ฉบับที่22

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560)" ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 เวลา 06.00 น. ความว่า

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้

ในช่วงวันที่ 18-19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ภาคเหนือ มีภาคกลาง และด้านรับลมมรสุมยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ตามภาคต่างๆดังนี้

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท

ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

 

ประกาศ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น.

 

(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย

(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

 

 

 

วันที่ 18 กรกฎาคม 2560 เวลา 06.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ทำการ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 19 ก.ค. 60

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบรเวรภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ภาคเหนือ


มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงฝนตกหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง
กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ขอนแก่น และชัยภูมิ
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี และชัยนาท
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

 


มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ สุราษฏร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

 

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่ จ.ภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่ จ.กระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.