- 18 ก.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เมื่อสมัยรัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงเสด็จประพาสสวีเดน ทำให้ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพระราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนของทั้งสองประเทศ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสวีเดนอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระเจ้าออสการ์ที่ ๒
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสยุโรปเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.๒๔๔๐ (ค.ศ.๑๘๙๗) โดยประเทศที่ได้เสด็จประพาส คือ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เดนมาร์ก สวีเดน เบลเยี่ยม อิตาลี ออกสเตรเลีย ฮังการี สเปน เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ อียิปต์และเยอรมัน ทั้งนี้มีเหตุผลอยู่หลายประการในการเสด็จประพาสครั้งนี้ คือ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศมหาอำนาจ และร่วมปรึกษาหารือในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งในขณะนั้นมีปัญหาการสู้รบกันอยู่ การเสด็จประพาสของพระองค์ในครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ไทย โดยในช่วงที่ทรงเสด็จประพาสนั้นทรงให้สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ในปี พ.ศ.๒๔๔๙ (ค.ศ.๑๙๐๖) พระองค์ได้เสด็จประพาสยุโรปอีกเป็นครั้งที่ ๒ การเสด็จประพาสครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ เพราะเมื่อพระองค์ได้เสด็จประพาสประเทศในทวีปยุโรปแล้วพระองค์ได้นำความรู้ และวิทยาการต่างๆที่ได้ไปศึกษาหรือเยี่ยมชมจากประเทศในยุโรปมาปฏิรูปประเทศ ให้มีความเจริญทัดเทียมอารยะประเทศ อีกทั้งยังเป็นการถ่วงดุลอำนาจของประเทศมหาอำนาจในขณะนั้นซึ่งก็คือ ฝรั่งเศสและอังกฤษ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อวันที่ (๑๗ ก.ค.๖๐) เวลา ๐๘.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น ราชอาณาจักรสวีเดน ณ สถานเอกอัครราชทูต กรุงสตอกโฮล์ม นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ ๒ นายพรชัย เทพปัญญา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และนายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา เข้าเยี่ยมคารวะนายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ในโอกาสเดินทางมาถวายสักการะและร่วมพิธีเฉลิมฉลอง ๑๒๐ ปี รำลึกการเสด็จประพาสเมืองรากุนดาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และงานครบรอบ ๒๐ ปี พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในวันที่ ๑๙ ก.ค.๖๐ ณ หมู่บ้านอูตาเนเด เมืองบิสพ์กอร์ดอน มณฑลแยมท์แลนด์ ราชอาณาจักรสวีเดน โดยได้หารือถึงแนวทางการบำรุงรักษาและการทำให้อาคารพระบรมราชานุสรณ์เป็นที่เผยแพร่พระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทยและสัญลักษณ์อันดีระหว่างไทยกับสวีเดนอย่างยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างกัน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสวีเดนนั้น นับได้ว่ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน นับตั้งแต่ที่ไทยกับสวีเดนได้ทำสนธิสัญญาทางไมตรีการพาณิชย์และการเดินเรือ (The Treaty of Friendship, Commerce and Navigation of ๑๘๖๘) เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๑ และนับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๒๕ เป็นต้นมา ไทยได้แต่งตั้งอัครราชทูต ประจำประเทศในยุโรป ให้ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตไทย ประจำประเทศสวีเดนด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง และมีความสัมพันธ์ทางการฑูตอันดีต่อกันตลอดมาจวบจนปัจจุบัน
สำหรับในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสสวีเดนนั้นซึ่งอยู่ในช่วงปี ค.ศ.๑๘๙๗ นั้น กษัตริย์สวีเดนซึ่งทรงครองราช ณ ขณะนั้นคือ สมเด็จพระราชาธิบดีออสการ์ที่ ๒ แห่งสวีเดนและนอร์เวย์ (ประสูติ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๓๗๒ - สวรรคต ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๐) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๔๑๕ ทรงสละราชสมบัติจากการเป็นกษัตริย์แห่งนอร์เวย์เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๔๘ และทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสวีเดนเมื่อวันเดียวกันกับการเป็นพระมหากษัตริย์แห่งนอร์เวย์ พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๐ รวมพระชนมายุได้ ๗๘ ปี
ที่มาจาก : กองประชาสัมพันธ์ กทม.
เพจ CHULALONGKORN
ขอบคุณคลิปจาก : Youtube แป้ง นิชาภา