- 18 ก.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ประกาศ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560 โดยมีใจความสำคัญเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี มาตรา 302 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น โดยมีหลักการสำคัญคือ เจ้าหนี้ไม่สามารถอายัดเงินได้ หากลูกหนี้มีเงินเดือนไม่เกิน 20,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือไม่ให้ลูกหนี้ต้องได้รับผลกระทบจากการจัดสรรรายได้ในการครองชีพ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ก.ย.นี้
ล่าสุด น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ชี้แจงการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวว่า โดยหลักการของกฎหมายเดิมให้ลูกจ้างบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ กำหนดไม่ให้เจ้าหนี้อายัดเงินลูกหนี้ที่มีเงินเดือนไม่เกิน 10,000 บาท แต่เนื่องด้วยปัจจุบันเมื่อค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น จึงได้มีเกณฑ์การบังคับชำระหนี้ด้วยการอายัดเงินได้ให้สูงขึ้นเป็น 20,000 บาท
อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์ใหม่นี้ถึงแม้ว่าภาครัฐมีเจตนาเพื่อให้ลูกหนี้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ สำหรับทรัพย์สินที่ไม่สามารถยึดหรืออายัดได้ ประกอบด้วยทรัพย์ต่างๆ ดังนี้ เช่น เครื่องนุ่งหุ่ม หลับนอน และเครื่องใช้ส่วนตัวที่มีราคาประเมินไม่เกินประเภทละ 20,000 บาท , สัตว์สิ่งของที่ใช้ในการประกอบอาชีพของลูกหนี้, สัตว์ สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ทำหน้าที่แทนอวัยวะของลูกหนี้ , ทรัพย์สินส่วนตัวประจำวงตระกูล และทรัพย์สินที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย
ส่วนทรัพย์ประเภทเงินที่ไม่สามารถอายัดหรือยึดได้ เช่น เบี้ยเลี้ยงชีพตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น เบี้ยคนพิการ เบี้ยคนชรา เงินเดือน บำนาญ รวมทั้งเงินฌาปนกิจจากการตายของบุคคลอื่น
แต่ลูกหนี้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท เมื่อถูกฟ้องบังคับคดีแล้ว ศาลก็จะมีคำสั่งให้ชำระหนี้และออกหมายบังคับคดีเพื่อปิดช่องไม่ให้มีการประวิงคดี ทำให้ลูกหนี้ต้องถูกบังคับชำระหนี้และมีภาระจะต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย จึงขอแนะนำให้ผู้มีหนี้สินชำระหนี้ตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นดอกเบี้ยจะทบต้นแล้วจะเป็นภาระในการที่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น
“สำหรับลูกหนี้ที่ถูกบังคับคดีตามกฎหมายเดิมยังต้องชำระหนี้ต่อไป โดยจะอ้างว่ามีเงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาทไม่ได้ ประเด็นสำคัญคือกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ออกมาเพื่อการปลดหนี้ เพียงแต่ช่วยดูแลให้ลูกหนี้แต่ละรายสามารถดำรงชีพอยู่ได้เท่านั้น” น.ส.รื่นวดี กล่าว