ผมเห็นต่างกับ ผบ.ตร.!!! "ทนายเกิดผล" ยันชัด "บังฟัต" และพวกฆ่ายกครัว 8 ศพ อาจ "ไม่โดนประหารชีวิต" เว้นเสียแต่เหตุผลเดียว!??

ภายหลังการแถลงผลจับกุม นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี และพวกรวม 8 ราย หลังก่อเหตุแต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหารพร้อมอาวุธ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มาขอตรวจค้นบ้านของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ก่อนจับคนในบ้าน 11 คน คุมตัวใส่กุญแจมือและปิดบังใบหน้า และใช้อาวุธปืนยิงอย่างโหดเหี้ยม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย อย่างที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว

โดยในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวการจับกุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า..“ในตอนจับกุมผมภาวนาให้พวกเขาต่อสู้กับตำรวจจะได้ตายตกตามกันกับสิ่งที่กระทำ แต่อย่างไรผมเชื่อว่ากลุ่มนี้โดนประหารชีวิตอยู่แล้ว” 
 

ล่าสุด ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด ต่อประเด็นดังกล่าวระบุว่า...

บังฟัด และพวก จะต้องรับโทษประหารชีวิต ตามความคาดหวังของ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ?

เรื่องนี้ ผมมั่นใจว่า บังฟัดและพวก จะไม่ได้รับการประหารชีวิต แม้จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิตก็ตาม
สืบเนื่องจากประเทศไทย เป็น สมาชิก ของสหประชาชาติ และ ในการประชุมของคณะกรรมาธิการของที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ ในข้อมติเกี่ยวกับการพักการใช้โทษประหารชีวิต และ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยให้สัตยาบันรับรองพิธีสารเลือกรับฉบับที่สองของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
 

 

ที่สำคัญคือขอให้ประเทศไทยพักการบังคับโทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติ คือหาก ไม่มีการประหารชีวิตจริงเมื่อครบ 10 ปี นับตั้งแต่ มีการประหารชีวิตครั้งสุดท้าย ก็จะถือว่า โทษประหารชีวิต จะถูกยกเลิกไปโดยปริยาย และประเทศไทย ได้ใช้การบังคับประหารชีวิต แก่นักโทษ 2 ราย ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552 โดยการฉีดยาพิษ

นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลาประมาณ 8 ปี ยังไม่มีนักโทษประหารคนใดถูกประหารชีวิตจริงๆ คงเหลือเวลา อีก 2 ปี (นับถึงเดือนสิงหาคม 2562) ก็จะครบ 10 ปี ที่ไทยไม่ได้ประหารชีวิตนักโทษจริง ซึ่งเมื่อครบ 10 ปี ก็จะถือว่า โทษประหารชีวิต จะถูกยกเลิกไปโดยปริยาย

 

 

ในส่วนคดีของบังฟัด และพวก ต้องใช้เวลาในการต่อสู้ นานเกินกว่า 2 ปีอย่างแน่นอน
เฉพาะการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ก็น่าจะไม่น้อยกวาปีครึ่ง ไหนจะชั้นอุทธรณ์ และ ฎีกา รวมระยะเวลา น่าจะไม่น้อยกว่า 3 - 4 ปี

ซึ่งหากถึงที่สุด มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต ก็น่าจะพ้นกำหนดระยะเวลา ที่ประเทศไทยเคยลงนามต่อสหประชาชาติไว้นั้นหมายถึง บังฟัดแลพวกจะรอดพ้นการถูกประหารชีวิต...

...เว้นแต่ ภายใน 2 ปี ที่เหลือ ระหว่างการพิจารณาคดีของบังฟัดและพวก จะมีการประหารนักโทษรายอื่น ซึ่งจะทำให้ปีะเทศไทยไม่ผูกพันในการลงนามต่อสหประชาชาติ และจะยังคงมีโทษประชีวิต ไว้ และ เวลานั้น บังฟัด และพวก อาจโชคดีถูกประหารชีวิต ก็เป็นได้

 

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด