ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

เบื้องหลัง“เณรคำ”!! ความจริงที่ต้องมองให้ทะลุ! เชื่อ "เณรคำ" ไม่ได้ดำเนินการคนเดียว แต่มีขบวนการอยู่เบื้องหลัง หนึ่งนั้นอาจเป็นธุรกิจสีเทา!!

จากการที่เณรคำ หรือ นายวิรพล สุขผล ได้ถูกทางการสหรัฐอเมริกา ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย ล่าสุด อาจารย์สุวินัย ภรณวลัย นักวิชาการอิสระได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งข้อความทั้งหมดทีดังนี้

เบื้องหลัง“เณรคำ”!! ความจริงที่ต้องมองให้ทะลุ! เชื่อ "เณรคำ" ไม่ได้ดำเนินการคนเดียว แต่มีขบวนการอยู่เบื้องหลัง หนึ่งนั้นอาจเป็นธุรกิจสีเทา!!

ความจริงของเณรคำ /สุวินัย ภรณวลัย /

ความจริงของเณรคำมีหลายด้านที่ผมไม่อยากให้พวกเรามองข้าม แต่ต้องมองให้ทะลุจนแลเห็นความจริงของเณรคำทั้งหมดอย่างเป็นองค์รวม

(๑) เณรคำมิใช่อลัชชีโดดๆที่อยู่ๆก็โผล่ขึ้นมาเป็นนักบวชที่สร้างเรื่องอื้อฉาวหลอกลวงประชาชน

(๒) แต่เณรคำคือ ตัวตนที่ถูกสร้างภาพ ถูกโปรโมทขึ้นมาอย่างเป็นระบบโดยขบวนการของผู้คนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง "เณรคำ" ขบวนการของผู้คนกลุ่มนี้ประกอบด้วยผู้คนสามกลุ่มใหญ่

(๓) กลุ่มแรกคือผู้คนที่หากินกับพระดัง-วัดดัง ช่วยเขียนเชียร์และเกาะกระแสความดังของพระที่เป็นเซเลปหรือซุปตาร์โดยแปลงมาเป็นผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเองอย่างมืออาชีพ

(๔) กลุ่มสอง คือกลุ่มธุรกิจสีเทา-กลุ่มค้ายาเสพติดที่ต้องการฟอกเงิน และเข้ามาหนุนหลัง ชักใย บงการ "เณรคำ" เพื่อฟอกเงินสกปรกของตน

(๕) กลุ่มสาม คือ พวกพระผู้ใหญ่ที่รับส่วยจาก ขบวนการ"เณรคำ" แบบเดียวกับขบวนการลัทธิธรรมกายเพื่อช่วยอุปถัมภ์ คุ้มครอง และสนับสนุนกลายๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของเณรคำน่าเชื่อถือและเป็นที่ศรัทธาของประชาชนทั้งประเทศ

(๖) การสร้างภาพเณรคำของผู้อยู่เบื้องหลังนั้น เล่นกับความเชื่อเร้นลับของชาวพุทธในสังคมไทยโดยตรงที่มีความเชื่อฝังลึกเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรที่เป็นพระป่าในร่างพระหนุ่มผู้ทรงฤทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ต่างๆนานา .... ความร้ายกาจเจ้าเล่ห์ของผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างภาพเณรคำก็คือ ความเชื่อเร้นลับเรื่องพระหนุ่มที่เป็นพระป่าผู้ทรงฤทธิ์ที่มีความเกี่ยวโยงกับหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้น มันเป็นเรื่องจริงและมีจริง เพียงแต่กรณีของเณรคำนั้นมันไม่จริงต่างหาก

(๗) สื่อที่แท้จริงจึงมีหน้าที่ต้องนำ ความจริงของเณรคำในด้านต่างๆออกมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้ในเชิงลึก มิใช่แข่งกันแค่ความเร็วในการบันทึกภาพเณรคำที่ถูกพาตัวกลับประเทศไทยอย่างเมื่อคืนเท่านั้น